#priwlistenEN — How rollercoasters affect your body [TED]

Parima Spd
1 min readApr 10, 2019

--

ในช่วง Summer ปี 1895 ได้เกิด rollercoasters สัญชาติอเมริกันขึ้นเป็นครั้งแรก เรียกว่า The Flip Flap Railway แต่ผลการเล่นของมันทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายในหลายๆ อย่างเช่น บาดเจ็บที่คอ หรือการหลุดไหลออกไป ปัจจุบันมีทริคหลายอย่างมากขึ้น แต่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงแบบครั้งนั้นอีกแล้ว ว่าแต่ rollercoasters นี่มันทำอะไรกับร่างกายเราบ้าง?

rollercoasters เป็นการเล่นกับเรื่อง gravity, energy และสมการอีกหลายๆ อย่าง

1 G-Force = gravity ที่เรารู้สึกได้เวลาเรายืนอยู่บนโลก แต่การที่เราไต่ขึ้นหรือไต่ลงไปตามราง ทำให้แรง G เปลี่ยนไป คน design รู้ว่า ร่างกายมนุษย์เราสามารถรับได้ประมาณ 5Gs ขณะที่ Flip Flap จัดไป 12Gs ในจุดนั้นเลือดจะเคลื่อนที่จากสมองไปยังเท้า สมองจะเริ่มไม่มีสติ ระบบออกซิเจนเริ่มมีปัญหา สายตาอาจเกิดการบอดชั่วคราว เวลาที่มันตีลังกาเลือดจะไหลลงหัวกระโหลก ทำให้เกิดอาการ “redout”

Negative G-Force จะสร้างสภาวะไม่มีนำ้หนัก มีผลกระทบกับน้ำในหู ทำให้เสียการทรงตัว

Airtime คือช่วงที่คนนั่งลอยตัวจากที่นั่ง แต่ก็ถูกป้องกันด้วย Belt แล้วในสมัยนี้ ไม่งั้นก็หลุดออกนอกเครื่องไป

นักวิศวกรรมจะทำการคำนวณอย่างดีว่าถ้าพบ pressure มา ควรต้องมีจุด relieve pressure ตรงไหน ก่อนที่จะไปโค้งตีลังกากันอีกรอบ ซึ่งการเล่นพวกนี้ ก็มีสิทธิ์ทำให้เราปวดหัว ปวดคอ ปวดหลังได้ คนที่ design ก็จะพยายามหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางแบบกระชั้นชิด รวมถึงการคิดเรื่องน้ำหนักผู้โดยสาร เพราะช่วงเวลาที่เราอยู่ ณ 5Gs เราจะต้องเอา 5 คูณเข้าไปในน้ำหนักตัวเราด้วย คิดน้ำหนักโดยรวมที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้ออกแบบรางได้เหมาะสมในทุกๆ จุด

ด้วยเทคโนโลยีการทำ 3D-model และ software ต่างๆ สมัยนี้ทำให้การเล่น rollercoasters ปลอดภัยและน่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมา เร็วขึ้น สูงขึ้น ลูปเยอะขึ้น โดยที่ไม่มีใครกระเด็นออกไปจากเครื่อง

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

No responses yet