#priwreadbooks คดีดราม่าทวีตล่าฆาตกร
#Bibli อาซาคุระ อากินาริ เขียน พรพิทักษ์ นิ่มอนงค์ แปล
ไทสึเกะ ผู้เป็นมนุษย์ออฟไลน์ โดนใครบางคนสวมเอาชีวิตไปโพสต์ในทวิตฯ โดยไม่รู้ตัวมาเป็นสิบปี จริงๆ แอคเคาท์ปลอมของเขาไม่ค่อยป็อบเท่าไหร่ เพราะโพสต์แต่เรื่องกอล์ฟ ซึ่งเป็นงานอดิเรก
จนวันหนึ่งมันถูกโพสต์ภาพศพหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ และถูกรีทวีตโดยนักศึกษาหนุ่มจนติดเทรนด์ และถูกรีทวิต ไปหลายหมื่นครั้ง
ทำให้ ยามางาตะ ไทสึเกะ พนักงานบริษัทอสังหาฯ คุณลุงธรรมดาๆ คนหนึ่ง ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที
ถ้าไม่ได้ทำผิด ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ชาวเน็ตเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไล่ล่าเปิดโปงตัวจริงของชายเจ้าของบัญชีนั้น ทั้งชื่อจริง รูปถ่าย ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่างถูกเปิดเผยจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต ถึงเขาจะยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำ แต่กลับไม่มีใครยอมเชื่อเลยสักคนแม้กระทั่งสมาชิกในครอบครัว
ราวกับทุกอย่างถูกจัดฉากมาอย่างแนบเนียนเพื่อบ่งชี้ว่าเป็นฝีมือของไทสึเกะ ยิ่งเขาแก้ตัว ยิ่งเหมือนโกหก ยิ่งชาวเน็ตขุด หลักฐานก็ยิ่งมัดตัว ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริสุทธิ์ ที่ตกเป็นแพะรับบาปคงมีเพียงการหนีเท่านั้น
เขากลายเป็นฆาตกรที่คนทั้งประเทศตามล่าตัวภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ชาวเน็ตมีการรวมกลุ่มกันเพื่อตามจับไทสึเกะด้วยความรุนแรง (แบบเอาถึงตาย) ทำให้เขาต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน
ไทสึเกะต้องพยายามกระชากหน้ากากฆาตกรที่แท้จริง และนำตัวส่งตำรวจให้ได้ ก่อนที่เขาจะถูกจับและโดนรุมประชาทัณฑ์
นี่คือเหตุการณ์ดราม่าระดับประเทศที่คนทุกเพศทุกวัยต่างกระโจนลงมามีส่วนเกี่ยวข้อง แม้แต่ละคนจะมีเบื้องหลังต่างกัน แต่สิ่งที่พวกเขากำลังตามหาเหมือนกันคือ ต้นตอของความชั่วร้ายทั้งหมดในคดีนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- ชายหนุ่มที่ตั้งใจรีทวีตภาพเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้คนตาย
- หญิงสาวที่ต้องการค้นหาตัวไทสึเกะให้พบเพื่อแก้แค้น (จริงหรือ?)
- นายตำรวจที่ทำคดีนี้ด้วยความไม่เต็มใจ
- ไทสึเกะ ที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เล่มนี้จะเน้นการเล่าความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแต่ละตัว ตัดสลับกันไปทีละบท ซึ่งมาโดนหลอกตอนท้ายว่า ในแต่ละบทมันคนละช่วงเวลาเกิดเหตุด้วยซ้ำ ตัดสลับอดีตกับปัจจุบัน อ่านจบแล้วนั่งมึนไปแป๊บนึง
ใจความหลักของเล่ม คือ สังคมออนไลน์ที่ไม่ว่าใครก็สามารถถูกขุดคุ้ยข้อมูลส่วนตัวออกมาประจาน รวมถึงอาจตกเป็นเหยื่อจากการถูกใส่ร้ายแบบไม่มีหลักฐาน จากคนที่ต้องการให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ โดยไม่สนว่าเรื่องที่เสริมเติมแต่งจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นมากแค่ไหน และท้ายที่สุด คนกลุ่มนี้ก็แทบจะไม่ต้องรับผิดชอบการกระทําอะไรของตัวเองเลย
การเป็นคนหลังคีย์บอร์ดที่คิดว่า ฉันไม่ผิด อาจฆ่าคนบริสุทธิ์ให้ตายทั้งเป็น
ขอบคุณหงส์ที่ให้ยืมมาอ่านจ้า