#priwreadbooks ดูห้องก็รู้อนาคต!
#AmarinHowTo มาสึดะ มิทสึฮิโระ เขียน ไชยวัชร ลิ้มสมเกียรติ แปล
ผู้เขียนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูห้องและทำความสะอาด ด้วยเทคนิคการสังเกตห้องหรือบ้านของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านของผู้บริหารที่มีรายได้หลายสิบล้าน บ้านของครอบครัวที่มีความอบอุ่นและลูกๆ ที่น่ารัก ห้องของผู้ที่กำลังจะได้รับอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งห้องที่เคยเกิดเหตุอาชญากกรรม เขาก็เข้าไปดูและทำความสะอาดมาแล้วทั้งนั้น
เพียงแค่ดูห้องก็รู้ได้ว่าคนนั้นจะเป็นอย่างไร จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาในอนาคตอันใกล้ ในทางกลับกันก็สอนเทคนิคในการปรับปรุงบ้านตัวเองเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เทคนิคทั้งหมดเกิดขึ้นจากการสังเกตและเหตุผลทางสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
สารบัญ
บทนำ มารู้อนาคตของคุณไปด้วยกันด้วย “เช็กลิสต์สำหรับประเมินห้อง”
บทที่ 1 เหตุใดแค่เห็นห้องก็รู้อนาคตแล้วล่ะ
บทที่ 2 ทำนายอนาคตด้วย “ระดับของห้องทั้ง 5”
บทที่ 3 การงาน การเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่
บทที่ 4 สุขภาพ ชีวิตคู่ ลูก พื้นฐานชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร
บทที่ 5 “พลังแห่งความสะอาด” พลังที่จะเปลี่ยนอนาคตของคุณ
บทส่งท้าย คุณสามารถเปลี่ยนอนาคตได้ด้วยตัวเอง สร้างสันติภาพของโลกด้วยพลังแห่งการทำความสะอาด
ข้อสังเกตทั้ง 5
จะช่วยให้คุณสามารถพิจารณาได้ว่าห้องของคุณอยู่ระดับใด มีดังนี้ บรรยากาศ ความสะอาด การจัดเก็บข้าวของ ความกลมกลืน ปริมาณและความหนาแน่นของข้าวของ
เมื่อสังเกตห้องแล้วก็จะแบ่งออกเป็น 5 เลเวลด้วยกัน คือ
- พื้นที่ของนางฟ้า
- พื้นที่แห่งความสำเร็จ
- พื้นที่แห่งความสบายใจ
- พื้นที่เกือบจะตกที่นั่งลำบาก
- พื้นที่มหันตภัย
สังเกตโชคด้านต่างๆ
- โชคด้านการงาน ดูได้จากโต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ กระเป๋า และชั้นหนังสือ
- โชคด้านการเงิน ดูได้จาก ปริมาณความหนาแน่นของข้าวของ กระเป๋าสตางค์ ห้องน้ำ
- โชคด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ดูได้จาก อ่างล้างหน้า กระจกหน้าต่าง หน้าประตูบ้าน
- โชคด้านสุขภาพ ดูได้จาก ห้องอาบน้ำ ห้องนอน ตู้เย็น
- โชคด้านชีวิตคู่ ดูได้จาก ห้องน้ำ พื้นที่ส่วนกลาง ห้องนอน ห้องนั่งเล่น
ยกตัวอย่างเรื่องของดูห้องก็รู้อนาคต ตอน ห้องทำงาน
ห้องของคุณก็เปรียบเสมือนตัวของคุณเอง แค่ดูห้องก็สามารถรู้อนาคตได้
กฎ 2 ข้อในการทำนายอนาคตจากห้อง
- จิตใจของมนุษย์จะสะท้อนออกมาผ่านห้องที่อยู่
- ในห้องจะมีพลังงานที่ดึงดูดพลังงานแบบเดียวกันเข้ามา
พื้นที่ที่สะท้อนให้เห็นอนาคตด้านงาน มี 4 แห่ง คือ โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ กระเป๋า และชั้นหนังสือ
โต๊ะทำงาน
โต๊ะทำงานเป็นสิ่งที่สะท้อนความสามารถในการทำงาน เป็นที่สะสางงานและรวบรวมอุปกรณ์ทำงาน ยิ่งมีเอกสารกองบนโต๊ะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีพลังงานลบมากเท่านั้น ส่งผลให้คุณสะสางงานได้ช้าลง มีคนจำนวนมากคิดว่า งานไปได้สวย เวลาโต๊ะรกยุ่งเหยิง และคิดว่ายังทำงานไหวอยู่ แต่จริงๆ แล้ว สภาพเช่นนี้หมายถึง กำลังหักโหมกับงานมากเกินไป โต๊ะที่รกเละเทะ จะสะท้อนให้เห็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น บางคนปล่อยให้โต๊ะรก เพราะหมดไฟในการทำงานไปแล้ว
โต๊ะที่บนโต๊ะเรียบร้อย แต่ในลิ้นชักกลับรกเละเทะ ก็สะท้อนการทำงานไม่มีประสิทธิภาพเช่นกัน โต๊ะยุ่งเหยิงจะทำให้จดจ่อกับงานที่ตั้งใจจะทำได้ยาก ทำได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ และไม่เห็นผลลัพธ์เสียที หากบนโต๊ะและในลิ้นชักสะอาดเรียบร้อย หมายความว่า คุณจะสามารถจดจ่อกับงานที่ทำได้
คอมพิวเตอร์
ระบบความคิดเกี่ยวกับงาน เราสามารถรู้ว่ามีอะไรในหัวคนนั้นได้ แค่ดูคอมพิวเตอร์ของเขา ถ้าไม่สามารถจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ได้ การงานก็จะยุ่งเหยิง กระจัดกระจาย และเห็นผลงานได้ยาก ถ้ารู้ว่าเก็บข้อมูลไว้ที่ไหน และเอาออกมาใช้ได้ทันที ทำให้คุณจัดการความคิดอย่างเป็นระเบียบ
กระเป๋า
สมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน เราไม่สามารถนำโต๊ะทำงานกลับบ้านได้ แต่เราสามารถพกกระเป๋าทำงานไปกลับระหว่างบ้านและออฟฟิศได้ หากทำงานหนักเกินไปจนสมดุลระหว่างการทำงานกับชีวิตส่วนตัวพังทลาย ในกระเป๋าก็จะรกและเต็มไปด้วยของใช้ที่ไม่จำเป็น หากของในกระเป๋ามีเท่าที่จำเป็น ไม่เยอะเกินไป พกพาสะดวก จะสะท้อนให้เห็นถึงสภาพการงานและชีวิตส่วนตัวที่น่าพึงพอใจ ทำให้สามารถจดจ่อกับการทำงานได้เต็มที่ และยังสามารถทุ่มเทให้กับงานอดิเรกได้ด้วย ปัจจุบัน นอกจากกระเป๋าทำงานแล้ว โทรศัพท์มือถือก็สามารถสะท้อนสภาพการทำงานได้เช่นกัน
ชั้นหนังสือ
ความคิดสร้างสรรค์ในตอนนี้ ชั้นหนังสือสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของคุณในตอนนี้ ชั้นหนังสือ แสดงให้เห็นว่า คุณลงทุนกับหน้าที่การงานในอนาคตอย่างไร หากไม่มีชั้นหนังสือ หรือหนังสือบนชั้นไม่เปลี่ยนแปลง แสดงให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรค์หยุดชะงัก หมั่นหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนหนังสือทั้งชั้นหนังสือ โดยอาจจะทิ้งหรือสลับบ้าง หากชั้นหนังสือมีการเคลื่อนไหว หมายความว่า ความคิดสร้างสรรค์ในตัวเราก็จะเลื่อนระดับด้วย
สรุปได้ว่า
- โต๊ะทำงาน = ความสามารถในการทำงาน
- คอมพิวเตอร์ = ระบบความคิดเกี่ยวกับงาน
- กระเป๋า = สมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
- ชั้นหนังสือ = ความคิดสร้างสรรค์ในตอนนี้
หากดูพื้นที่ทั้ง 4 แห่งนี้ประกอบกัน จะสามารถทำนายได้ว่า อนาคตด้านการงานของคุณจะเป็นอย่างไร
สิ่งที่ห้องสะท้อนออกมานั้นเปรียบได้กับเมล็ดพันธุ์ของพืช
หากสภาพจิตใจที่เป็นลบ ถูกหว่านลงไป เมล็ดพันธุ์แห่งความสกปรกก็จะแตกหน่อและค่อยๆ ออกดอกออกผลเป็นเหตุการณ์ด้านลบ เมื่อคุณมองเห็นเห็นเมล็ดพันธุ์ด้านลบที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ เหตุการณ์ร้ายๆ หรือความทุกข์ในอนาคตแล้ว เพียงแก้ปัญหาด้วยการกำจัดเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นออกไปก็พอแล้ว นั่นคือ ใช้พลังแห่งการทำความสะอาด ด้วยการถ่ายเทอากาศ ทิ้ง ทำความสะอาด จัดระเบียบ โรยเกลือคั่ว (ความเชื่อแบบญี่ปุ่นที่มาแต่สมัยโบราณ)
หากทิ้งคำว่า “สักวันหนึ่ง” และ “ตอนนั้น” ไปได้ คุณก็จะสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้
เมื่อคุณตระหนักได้ว่าชีวิตเป็นของตัวคุณเอง เมื่อนั้นทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะคุณเข้าใจแล้วว่า คุณสามารถเปลี่ยนชีวิตของตัวเองไปในทิศทางใดก็ได้ เมื่อคุณไม่มัวแต่คิดถึงอดีต หรือเพ้อฝันถึงอนาคต เมื่อนั้นตัวตนที่พร้อมจะอยู่และเปลี่ยนแปลงปัจจุบัน ก็ถือกำเนิดขึ้นและส่งผลให้คุณมีความคิดว่า อยากพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง
พออ่านจบจะรู้สึกมีไฟขยันจัดห้องขึ้นมาหนึ่งเฮือกเลยล่ะ