#priwreadbooks ทุกขณะคือการพักผ่อน

#WeLearn โอกิโนะ จุนยะ เขียน กมลวรรณ เพ็ญอร่าม แปล

จะว่าไปช่วงนี้ไม่ได้พักเลย… แต่ถึงอยากพักก็ยุ่งจนไม่มีเวลาอยู่ดี…

ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป กฎเกณฑ์และค่านิยมต่างๆ ก็ย่อมเปลี่ยนตาม สิ่งที่คุณเชื่อมั่นว่าดีหรือถูกต้องในตอนนี้ สักวันอาจไม่ใช่อีกต่อไปก็ได้

สิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับคนที่กำลังพยายามอย่างสุดกำลังคือการยอมรับตัวเองในแบบที่เป็นอยู่ จากนั้นลอง “หยุดพักสักนิด” ทำความเข้าใจตัวเองโดยไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์และค่านิยม เพื่อหาว่าสิ่งที่เป็นความสุขที่แท้จริงในช่วงเวลาต่อจากนี้ไปคืออะไรกันแน่

หนังสือแบ่งออกเป็น 7 บทใหญ่ และมีเรื่องสั้นๆ ในบทนั้นๆ

1. แย่ไปหมดทั้งกายใจ : สัมผัสสิ่งที่ร่างกายกำลังรู้สึก
2. สับสนวุ่นวาย : จัดระเบียบชีวิตให้เข้าที่เข้าทาง
3. หงุดหงิดทั้งวัน : ฝึกนิสัยที่ช่วยผ่อนคลายใจให้เป็นสุข
4. พักผ่อน : กำหนดให้วันนี้เป็นวันพักผ่อน
5. ไม่ถนัดเรื่องคน : เว้นระยะห่างให้พอดีเพื่อปรับปรับความสัมพันธ์
6. อารมณ์ไม่มั่นคง : ทำจิตใจที่ร้อนรนให้สงบ
7. หลงทางชีวิต : ฝึกรักตัวเองให้มากขึ้น แล้วตื่นเต้นกับอนาคต

ตั้งใจว่าจะไม่ฝืนตัวเองแต่ก็ยังเหนื่อยตลอด
พอเล่นโซเชียลมีเดียก็เห็นแต่คนรอบข้างมีชีวิตดีๆ กันทั้งนั้น
ดูเสร็จก็เอามาเปรียบเทียบกับตัวเองจนเสียความมั่นใจ
ถึงเวลาที่คุณควรพักผ่อนร่างกายและจิตใจของตัวเองเพิ่มแล้ว
เพราะการพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ

• คุณจะมีความสุขได้ยาก ถ้าร่างกายเจ็บป่วย หรือต่อให้แข็งแรง แต่จิตใจไม่ไหว ก็ยากที่จะมีความสุข และทั้งสองส่งผลซึ่งกันและกัน
• การปรับบุคลิกมายืดหลังตรง ทำให้ทัศนคติเราดีขึ้น มั่นใจมากขึ้น
• บางทีเรายิ้มก่อนแล้วค่อยรู้สึกดี ไม่จำเป็นต้องรู้สึกดีก่อนค่อยยิ้ม
• จัดตารางว่างให้ตัวเอง ตั้งเป็นกฎช่องว่าง ไปเลย 20%
• ไม่กินจนกว่าจะหิว คนเราไม่จำเป็นต้องกินให้ครบสามมื้อ ลองตอบตัวเองว่า เรากินเพราะถึงเวลา หรือ เพราะหิวกันแน่
• ลองแปรงฟันด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด เพราะคุณจะได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ ร่างกายคนเรายิ่งใช้ยิ่งพัฒนา
• ทำทีละอย่าง ถ้าคุณกำลังนวดขาตัวเองอยู่ ก็นวดอย่างเดียวไม่ต้องดูซีรีส์ไปด้วย
• หากนอนไม่หลับเพราะคิดฟุ้งซ่านก่อนนอน ให้ปิดไฟ นั่งท่าสบายๆ แล้วรับรู้เรื่องนั้นในฐานะข้อเท็จจริง ไม่ต้องกลบเกลื่อนความกังวล
• การพูดทักทายแบบเสียงดังฟังชัด ถึงไม่มีใครตอบกลับก็ไม่เป็นไร การที่เราเป็นคนพูดทักทายสำคัญกว่า
• หาพื้นที่อุ่นใจให้ตัวเอง ที่รู้ว่าถ้าไม่สบายใจ ขอแค่กลับไปที่นั่นก็พอแล้ว
• ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เราก็เลือกได้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับมัน
• เวลาเลิกงาน ให้เขียนงานคั่งค้างใส่กระดาษไว้ แล้วโยนเรื่องที่จบไปแล้วออกจากสมอง
• จัดระเบียบข้าวของหลังใช้งานเสร็จ จะเป็นการจัดระเบียบให้กับจิตใจด้วย
• การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจะทำให้คุณรู้สึกดี หรืออย่างน้อยก็ไปยังที่ที่ทำให้คุณรู้สึกดีสักที่ มองออกไปกว้างๆ เดินเท้าเปล่าบนหาดทราย
• โซเชียลมีเดีย ไม่ต้องรีบตอบก็ได้ เมื่อลองตัดขาดกับโลกออนไลน์สักพัก เราจะค้นพบไลฟ์สไตล์ที่แท้จริงของตัวเองได้ง่ายขึ้น
• เลือกนัดเจอคนที่อยากเจอ “ตอนนี้” มากกว่าไปนัดเจอคนที่อยากเจอคราวหน้า
• การตั้งใจฟังช่วยได้มากกว่าการตอบแบบดูดี สิ่งสำคัญกว่าคำแนะนำคือการตอบรับและฟังอย่างตั้งใจ
• ถ้ายอมรับคนที่แตกต่างจากตัวเองได้ ก็จะไม่โมโห การที่คนเราคิดต่างกันถือเป็นเรื่องธรรมดา
• มองคนตรงหน้าแล้วคิดว่า เขาไม่ต่างจากเรา ทั้งคู่ต่างก็เคยเจอความเจ็บปวดกับคำพูดของคนอื่นและพยายามใช้ชีวิตอย่างสุดความสามารถ
• พยายามคิดคำชมอีกฝ่ายให้ได้ 50 คำ เพราะการชมคนอื่นต้องอาศัยทักษะการสังเกตและความกล้าที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด
• ยอมรับว่ามีความรู้สึกแย่ๆ อยู่ในตัวเองโดยไม่โทษหรือต่อว่าคนอื่น
• มองความผิดพลาดของตัวเองด้วยมุมมองที่เป็นกลาง ช่วยสร้างระยะห่างจากความผิดพลาดได้
• เราไม่รู้ว่า ครั้งต่อไป คือเมื่อไหร่ ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ตรงหน้ามากๆ “นี่อาจจะเป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย” จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลังว่า “ตอนนั้นเราน่าจะ…”
• จัดระเบียบสิ่งต่างๆ ในหัวด้วย “การเขียน” สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุด เป้าหมายของเราในตอนนี้ อนาคตในอุดมคติ ข้อดีของตัวเอง ความฝันของเรา

ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่ามีหรือไม่มีเวลา เพราะเราสามารถพักผ่อนได้ทุกเวลา แม้ในยามที่คุณรู้สึกว่าตัวเองยุ่งสุดๆ จนไม่เหลือเวลาไปทำอย่างอื่น เพราะทุกขณะคือการพักผ่อน

ปล. ขอบคุณพี่บ๊อบที่ให้ยืมมาอ่านฮะ