#priwreadbooks วิทยาศาสตร์ของการทำความสะอาดบ้าน

Parima Spd
1 min readApr 10, 2022

--

#welearn มัตสึโมโตะ ทาดาโอะ เขียน ศุภภัทร พัฒนเดชากุล แปล

การทำความสะอาดที่คุณทำอยู่เป็นประจำนั้น ช่วยให้บ้านสะอาดจริงๆ หรือเปล่า?
ความจริงแล้วยิ่งตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งทำให้ห้องสกปรกมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคยิ่งกว่าเดิมด้วย

ในหนังสือประกอบไปด้วย 4 บทหลัก คือ

  1. วิธีทำความสะอาดบ้าน แบบที่ทำอยู่ถูกต้องหรือไม่
  2. เทคนิคการทำความสะอาดเพื่อป้องกันโรค
  3. เทคนิคการทำความสะอาดห้องเพื่อป้องกันโรค
  4. ทำอย่างไรถึงจะทำความสะอาดเพื่อป้องกันโรคได้อย่างต่อเนื่อง

สิ่งสำคัญที่สุดของเทคนิคการทำความสะอาดเพื่อป้องกันโรคคือ ต้องง่ายพอที่จะทำได้อย่างต่อเนื่อง

เป็นการดูแลสภาพแวดล้อมให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับเชื้อต่างๆ ได้อย่างสุขภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การทำความสะอาดแบบไม่กดดันตัวเองว่าต้องทำ จะช่วยให้ลงมือปฏิบัติได้อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นนิสัยได้ง่ายกว่า พอติดเป็นนิสัยแล้วเราก็จะไม่รู้สึกว่าการทำความสะอาดเป็นภาระอีกต่อไป

วิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่น

หากต้องการลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นให้เหลือน้อยที่สุด แนะนำให้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นที่เน้นความสะอาดของช่องระบายลมกับแรงดูดที่เหมาะสม หากช่องระบายลมอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับพื้นจะทำให้ฝุ่นบนพื้นฟุ้งกระจายอย่างมาก จึงขอแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับที่มีช่องระบายลมอยู่ใกล้มือมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบไร้สาย เนื่องจากทุกครั้งที่เคลื่อนย้ายเครื่องดูดฝุ่น สายไฟที่ขยับตาม ทำให้ฝุ่นที่พื้นฟุ้งกระจาย แรงดูดควรเลือกแบบที่มีแรงดูดเพียงพอในการดูดฝุ่นที่ติดอยู่บนพื้นเนื่องจากความชื้นและไฟฟ้าสถิต วิธีการใช้งาน ให้ใช้แบบค่อยๆ ขยับหัวดูดให้เคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอ ด้วยความเร็ว 5–6 วินาทีต่อ 1 เมตร เพราะหากขยับหัวดูดอย่างเร็ว จะทำให้ฝุ่นบนพื้นฟุ้งกระจายหรือพลาดฝุ่นที่ติดอยู่บนพื้น ส่งผลให้ไม่สามารถดูดฝุ่นได้มากเท่าที่ควร

เครื่องปรับอากาศ

ที่มีฟังก์ชันทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศจะมีการปนเปื้อนของเชื้อราน้อยกว่า โดยเฉพาะเชื้อราที่ทนต่ออุณหภูมิสูง ซึ่งเจริญเติบโตได้แม้ในอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสและเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีฝุ่นสะสม ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูแลรักษาแผ่นกรองอากาศไม่ให้มีฝุ่นเยอะ หากใช้บริการทำความสะอาดภายในตัวเครื่องจากช่างที่ชำนาญ จะช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อราได้นานทีเดียว ยิ่งมีฝุ่นสะสมในเครื่องปรับอากาศมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงสูงว่าจะมีเชื้อราปนเปื้อนมากขึ้นเท่านั้น

ฝุ่นในห้องน้ำ

ส่วนประกอบหลักเกิดจากฝ้าย เส้นใยสังเคราะห์รวมถึงเส้นใยละเอียดที่มาจากกระดาษทิชชู่ ฝุ่นในห้องน้ำ 1 กรัม มีจำนวนเชื้อแบคทีเรียหลายแสนถึงหลายล้านตัว ซึ่งชนิดของแบคทีเรียที่พบเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วง สาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมื่อทำความสะอาดห้องน้ำควรให้ความสำคัญกับการรักษาความสะอาดโดยไม่ใช่แค่ขจัดคราบสกปรกที่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ต้องกำจัดฝุ่นอย่างหมดจดด้วย และพยายามใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆ ขณะเข้าห้องน้ำให้น้อยลง

เชื้อรา

จะมีชีวิตอยู่ได้ต้องอาศัย ออกซิเจน อุณหภูมิที่สูงกว่า 20 องศา และความชื้นที่มากกว่า 80 องศา พื้นที่ที่เกิดเชื้อราได้ง่าย 3 แห่งที่เรามักจะมองข้ามคือ ถังซักในเครื่องซักผ้า เพดานห้องอาบน้ำ พรม รวมไปถึง พื้นที่เปียกชื้น พื้นที่ด้านหลังเฟอร์นิเจอร์ที่วางชิดผนัง พื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี พื้นที่ที่แดดส่องไม่ถึง บริเวณเครื่องปรับอากาศและเครื่องเพิ่มความชื้น บริเวณหน้าต่างที่ไอน้ำเกาะได้ บริเวณรอบๆ เตียง คุณควรตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเหล่านี้เป็นประจำโดยพยายามทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีและไม่ปล่อยให้ความชื้นสะสม การป้องกันเชื้อราด้วยการพยายามควบคุมความชื้นภายในห้องไม่ให้เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ พยายามเช็ดหยดน้ำทุกครั้งหลังจากที่ใช้พื้นที่เปียกชื้น รวมถึงทำความสะอาดฝุ่นและคราบสกปรกที่เป็นแหล่งอาหารของเชื้อราโดยไม่ปล่อยทิ้งไว้

ช่วงเช้าตรู่ที่ฝุ่นในอากาศตกลงบนพื้นห้องจนหมด ขอให้คุณทำความสะอาดพื้นที่ที่ฝุ่นรวมตัวได้ง่าย โดยค่อยๆ กำจัดฝุ่นออกด้วยไม้ถูพื้นแบบแห้ง นอกจากนี้ให้เช็ดถูฝุ่นออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์อย่างเบามือ เพราะผ้านี้มีเส้นใยละเอียดจึงสามารถดักฝุ่นขนาดเล็กไม่ให้หลุดรอดออกไปได้ วิธีการขยับไม้ถูพื้น ให้ถือห่างจากตัวมากที่สุดแล้วค่อยๆ เลื่อนไม้ถูพื้นให้แนบกับพื้นไปทางด้านหน้าอย่างช้าๆ ส่วนการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ทำความสะอาด ให้ค่อยๆ ขยับผ้าไปในทิศทางเดียว เพื่อให้ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย แทนที่จะทำความสะอาดพื้นที่ทั้งหมดในระดับเท่าๆ กัน ขอให้เน้นทำความสะอาดพื้นที่ที่ฝุ่นรวมตัวได้ง่ายเป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคซึ่งมาจากเชื้อราและไวรัส พื้นที่ภายในบ้านที่ฝุ่นรวมตัวกันง่าย เช่น มุมโถงทางเดิน ใกล้ผนังห้อง รอบๆ เฟอร์นิเจอร์ พื้นที่ที่มีพัดลมระบายอากาศ รอบๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ

ป้องกันการแพร่เชื้อโนโรไวรัสและโรต้าไวรัส

ด้วยการเจือจางสารฟอกขาวคลอรีนสำหรับใช้ในครัวเรือน 0.02% แล้วนำไปเช็ดฆ่าเชื้อแทนการใช้แอลกอฮอล์โดยใช้ผ้าด้านเดิมใช้ไปในทิศทางเดียวเสมอ

สิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการฆ่าเชื้อโนโรไวรัสคือระยะเวลาในการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหากเช็ดฆ่าเชื้อลูกบิดประตูห้องน้ำ ฝาชักโครก และที่กดชักโครกด้วยสารฟอกขาวเข้มข้น 0.02 เปอร์เซ็นต์ทุกวันก็เป็นอันหายห่วง

หากมีเชื้อราเกิดขึ้นที่บริเวณพื้นที่เปียกชื้น ให้คุณเทน้ำลงบนพื้นที่นั้นให้เปียกแล้วนำกระดาษชำระที่ชุบสารฟอกขาว 0.02% แปะทิ้งไว้ 3–5 นาที จากนั้นนำกระดาษชำระที่แปะอยู่ออกแล้วใช้น้ำล้าง แต่ถ้าไม่ได้ให้เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

สิ่งสำคัญในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

คือการรักษาความชื้นไว้ที่ระดับ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ การตากแดดเครื่องนอนและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการทำความสะอาดโดยไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย

การป้องกันโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ให้นำที่นอนไปตากแดดและใช้เครื่องดูดไรฝุ่นที่ภายนอกบ้าน รวมถึงรักษาระดับความชื้นให้ไม่เกิน 60% เสมอ

สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่าง จะใช้ได้ผลกับคราบน้ำมันและคราบไขมัน

สารทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรด จะใช้ได้ผลกับคราบน้ำ เศษสบู่ และคราบเหลืองในห้องน้ำ

ส่วนสารฟอกขาวคลอรีน จะใช้ได้ผลกับการกำจัดเชื้อรา

วิธีทำให้ห้องไม่สะสมฝุ่นคือการวางเฟอร์นิเจอร์ให้แนบสนิทกับผนังเพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้า หรือจัดพื้นที่ระหว่างเฟอร์นิเจอร์ให้กว้างๆ จะได้ทำความสะอาดง่ายขึ้น

การทำความสะอาดให้เป็นกิจวัตรคือทางลัดในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และเมื่อตรวจสอบปริมาณฝุ่นหรือขยะที่รวบรวมได้แล้วจะทำให้มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังได้ดูแลรักษาห้องให้สะอาดด้วย

นอกจากนี้ในหนังสือยังมีเทคนิคและวิธีการทำความสะอาดในแต่ละโซนของบ้านให้ด้วย พร้อมภาพประกอบที่เป็นสีขาวดำ อ่านจบแล้วก็รู้สึกอยากทำความสะอาดบ้านขึ้นมาอีกแล้ว ><”

การป้องกันด้วยการทำความสะอาดเป็นงานที่ต้องใจเย็น และจะมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อทำอย่างต่อเนื่อง

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

No responses yet