#priwreadbooks ศิลปะการอยู่ร่วมกับคนเฮงซวย The Asshole Survival Guide
#AmarinHowTo โรเบิร์ต ไอ ซัตตัน เขียน ไอริสา ชั้นศิริ แปล
หยาบคาย.. น่ารำคาญ.. เก่งแต่ปาก.. เราทุกคนต้องเผชิญกับคนเฮงซวยไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะที่ทำงาน ในโปรเจ็คงาน ในห้องเรียน หรือในชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป คนที่ทำอย่างกับเราเป็นขยะไร้ค่า
ถ้าคุณทำตัวแบบคนเฮงซวย หรือปกป้อง หรือปล่อยปละให้คนอื่น แสดงพฤติกรรมเหยียบย่ำและไม่ให้เกียรติคนอื่น ก็มีแนวโน้มว่าคุณจะไม่ยอมรับความจริง ที่ไม่น่าปลื้มเกี่ยวกับตัวคุณเอง หรือใครทั้งนั้น
คนเฮงซวย คือ คนที่ชอบทำเหมือนคนอื่นไร้ค่าและน่ารังเกียจตลอดเวลา คนเฮงซวยบางคนเป็นคนเฮงซวยแค่ชั่วคราว คนเหล่านี้อาจจะเกิดตัวตนของความเฮงซวยขึ้นจากระบบ หรือโดนคนเฮงซวยอีกคนเปลี่ยนแปลงเขาไปอีกที แต่คนเฮงซวยที่รับมือยากที่สุดคือคนเฮงซวยถาวร คนเฮงซวยเหล่านี้ เฮงซวยเสมอ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็เฮงซวย คนเหล่านี้มักจะแก้ไขไม่ค่อยได้ เราควรหลีกหนีหรือกำจัดเขาทิ้งจากระบบ “ความบ้าบอที่ไม่จบไม่สิ้นคือ ลักษณะของคนเฮงซวย”
ไม่ว่าเราจะพยายามหลีกเลี่ยงคนเฮงซวยมากแค่ไหน คนเฮงซวยก็โผล่มาในชีวิตเราได้อยู่ดี
ประเมินความเฮงซวย
- ประเมินจากความรู้สึกของตัวเองว่า ตัวเองกำลังโดนผู้ต้องสงสัยว่าเฮงซวยกำลังทำกับคุณอย่างไร้ค่าน่าชิงชังรึเปล่า
- ความเฮงซวยนี้มันเกิดขึ้นแบบชั่วคราว สั้นๆ หรือมันเกิดต่อเนื่องมานานแล้ว ถ้ามันเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน คนที่ถูกกระทำก็คงต้องเตรียมแผนรับมือ
- ผู้ต้องสงสัยว่าเฮงซวย เป็นคนเฮงซวยตัวจริง หรือเป็นแค่คนเฮงซวยชั่วคราว เพราะบางครั้งเราทุกคนก็ทำตัวเฮงซวยกันได้ทั้งนั้น ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยกับความเฮงซวย เช่น ทำงานอยู่ในแผนกที่มีแต่คนเฮงซวย เราเองก็อาจเปลี่ยนกลายเป็นคนเฮงซวยไปด้วย ความเฮงซวยสามารถเป็นโรคติดต่อได้ เพื่อทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดได้ในที่ทำงาน
- ปัญหาอยู่ที่คนหรือระบบ เป็นความเฮงซวยที่เกิดจากคนๆ เดียว หรือเป็นกันทั้งองค์กร วิธีในการรับมือก็จะแตกต่างกันไป
- ประเมินว่าตัวคุณที่ถูกคนเฮงซวยกระทำ มีอำนาจเหนือคนเฮงซวยแค่ไหน ถ้ามีอำนาจมากกว่าเยอะ ตัวเลือกวิธีการในการรับมือก็หลากหลาย แต่ถ้าเป็นคนด้อยอำนาจกว่า ก็คงจะต้องวางแผนรับมือให้แยบยลขึ้น
- ตัวคุณที่ถูกคนเฮงซวยกระทำนั้นทุกข์แค่ไหน เพราะว่าการกระทำแต่ละอย่างอาจส่งผลต่อแต่ละคนต่างกัน บางคนอาจจะคลุ้มคลั่งกับการกระทำของคนเฮงซวยคนหนึ่ง แต่อีกคนกลับไม่รู้สึกอะไรเลยกับคนเฮงซวยคนนี้ก็เป็นได้
เราทุกคนสามารถเป็นคนเฮงซวยได้ แต่มักไม่รู้ตัว เพราะเรามักจะมองตัวเองในแง่ดีเกินไปเสมอ เราจึงต้องหมั่นสำรวจตัวเอง และอาจคอยประเมินความเฮงซวยของตัวเอง จากการถามคนรอบข้าง
เราควรรับมือกับคนเฮงซวยอย่างไร
- รักษาระยะห่าง หนีออกมาให้ไกล แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้อยู่ห่างเข้าไว้ เลือกตำแหน่งโต๊ะตำแหน่งเก้าอี้ที่ไม่ต้องสบตากับคนเฮงซวย เรื่องเหล่านี้แม้จะเล็กน้อย แต่ให้ผลต่อความสบายใจมาก
- หนี ในกรณีที่ตัวขาดไม่ได้ ลาออกไม่ได้ ย้ายงานไม่ได้ การหนีแบบเป็นระบบจะช่วยลดความเครียดได้ เช่น วางแผนให้คลาดกับคนเฮงซวย ออกมาประชุมข้างนอกบ่อยๆ พยายามไม่รับมอบหมายงานที่ต้องทำกับคนเฮงซวย
- ปล่อยให้เขาวีนแตกไปเรื่อยๆ จนสงบเอง อย่าไปต่อล้อต่อเถียงมาก เพราะคนเหล่านี้จะยิ่งชอบและทวีความเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ ปล่อยให้เขาด่าจนพอ พูดช้าๆ จังหวะความเฮงซวยของเขาจะช้าลง
- หายตัวไปเลย ทำตัวเหมือนไร้ตัวตน คิดเสียว่าคลุมผ้าคลุมล่องหนอยู่ ปล่อยทุกอย่างให้เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไป อย่าไปสนใจ
- หาผู้ช่วย เช่น เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือใครสักคนมาช่วยเบี่ยงเบน หรือรับมือกับคนเฮงซวยแทนเราไปก่อน เราอาจทำสนธิสัญญาสลับกันรับมือกับคนเฮงซวยได้ ถ้าใครไม่ไหว ก็แตะมือเปลี่ยนกัน
- หาพื้นที่ปลอดภัย เช่น ดิสนีย์แลนด์จะมีพื้นที่สำหรับพนักงานเท่านั้น พนักงานจะสามารถเป็นตัวของตัวเองและหลุดจากบทบาทที่เป็นอยู่ได้ ถ้าเจอลูกค้าเฮงซวยกำลังวีนอยู่ในร้านอาหาร เราอาจจะเดินเข้าห้องครัว หรือแม้กระทั่งถ้าเจอหัวหน้าเฮงซวย เราอาจจะหลบมาอยู่ในห้องน้ำก่อน
- เปิดระบบการเตือนล่วงหน้า ร่วมมือกันระหว่างคนที่ต้องรับมือกับคนเฮงซวยด้วยกัน และคิดระบบหลีกหนีจากความเฮงซวยเหล่านั้น เช่น หากหัวหน้ากำลังเฮงซวยถึงขีดสุด เราก็กระจายกันในเครือข่ายว่าหลีกเลี่ยงการพบหัวหน้าไปก่อน
วิถีต่อสู้กับคนเฮงซวยอย่างมีอารยะ คือ เผชิญหน้าอย่างสงบ มีเหตุผล และตรงไปตรงมา
จงมีส่วนร่วมในการแก้ไข ปกป้องคนอื่น ไม่ใช่แค่ตัวเอง เปลี่ยนคนเฮงซวยให้เป็นมิตร ถ้าลองส่องกระจกแล้วพบว่าตัวเองอาจจะเป็นคนที่สร้างปัญหานั้นเอง ให้ขอโทษที่คุณทำตัวแบบนั้น พูดจากใจ และแก้ไขให้ถูกต้อง