#priwreadbooks โปรเจกต์เฮลแมรี ภารกิจกู้สุริยะ (Project Hail Mary)
#น้ำพุ Andy Weir (แอนดี เวียร์) ธิดา จงนิรามัยสถิต แปล
ดร. ไรแลนด์ เกรซ นักวิทยาศาตร์ ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวในภารกิจชี้ชะตาโลก หากล้มเหลว เผ่าพันธุ์มนุษย์และโลกจะถูกล้างบางจนหมดสิ้น
ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกโลก ไม่ใช่อุกกาบาตลูกยักษ์ที่กำลังจะพุ่งชนให้ทั้งโลกต้องสั่นคลอน แต่เป็นเพราะการหม่นแสงของดวงอาทิตย์ หม่นลงเรื่อยๆ ทีละเล็กทีละน้อย และเจ้าปริศนาตัวแสบนั่นตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่ง มันกำลังเล่นงานดวงอาทิตย์ เผลอๆ อาจลุกลามไปถึงดวงดาวของระบบสุริยะอื่นๆ ด้วย
หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ความหนาวเหน็บและสงครามจะเกิดขึ้นทั่วโลก โลกมนุษย์จะกลับคืนสู่ยุคน้ำแข็ง คนครึ่งโลกต้องตาย ส่วนอีกครึ่งก็อาจอยู่ในสภาพร่อแร่
ไรแลนด์ ถูกเรียกเข้ามาช่วยในโครงการนี้ เพื่อหาว่าเจ้าปริศนาตัวแสบนั่นคืออะไรกันแน่ และจะหาวิธีจัดการมันอย่างไร เขาเพียงแค่อยากอุทิศเวลาบนโลกเพื่อส่งต่อความรู้ให้กับเด็กๆ เท่านั้น เขาไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเพื่อทำภารกิจกอบกู้โลกนี้
สุดท้ายก่อนวันปล่อยตัวไม่นาน หวยดันมาตกที่เขาที่จู่ๆ ก็ได้รับการคัดเลือก (บังคับ) ให้ขึ้นยานไปกับเพื่อนร่วมทางอีก 2 คนด้วยตั๋วเที่ยวเดียว ไม่มีขากลับ
เขาไม่ได้เตรียมใจมาเพื่อให้ถูกส่งไป “ภารกิจฆ่าตัวตาย”
แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา หลังจากการเดินทางอันยาวไกล เขาจำไม่ได้แม้แต่ชื่อตัวเอง นับประสาอะไรกับเรื่องภารกิจ สิ่งเดียวที่รู้คือเขาหลับไปเนิ่นนาน จนตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่ไกลบ้านนับล้านไมล์ กับคนแปลกหน้าสองคนที่กลายเป็นศพ คนหนึ่งเหลือแต่เนื้อติดกระดูก ส่วนอีกคนกลายเป็นผงไปแล้ว
ขณะที่ความทรงจำค่อยๆ หวนคืนมาหลังจากอาการโคม่า ไรแลนด์เริ่มตระหนักว่าภารกิจที่เขาต้องทำนั้นแทบไม่มีทางสำเร็จ และถ้าเขาพลาดนั่นหมายถึงการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ
เวลานับถอยหลังไม่หยุด เพื่อนร่วมทีมก็ตายไปหมดแล้ว ความช่วยเหลือที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปหลายสิบปีแสง เขาต้องหาวิธีหยุดยั้งหายนะโดยลำพัง มันจะไปทำได้ยังไง
เวลามันสามารถขยายและไม่เท่ากันได้เมื่ออยู่คนละระบบสุริยะ เวลาที่ใช้ในการเดินทางจากโลกไปเทาเซติ คนที่อยู่บนยานจะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปประมาณ 3–4 ปี ในขณะที่เวลาบนโลก ผ่านไปแล้วถึง 13–14 ปี (มันถึงเป็นตั๋วเที่ยวเดียวยังไงล่ะ)
แต่แล้วขณะที่กำลังเฝ้าดูดาวฤกษ์อีกดวงในระบบอื่นที่ไม่โดนเจ้าตัวปริศนานั่นจัดการดับแสง (เทาเซติ) ก็มียานอีกลำมาจอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน
เมื่อเราไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวในจักรวาล ภารกิจที่แทบจะเป็นไปไม่ได้และคำว่าเพื่อนแท้ที่หายากก็ได้บังเกิดขึ้น
เป็นอีกเล่มที่สนุกสุดๆ ถึงแม้ตลอดทางจะเป็นเรื่องของสูตรคำนวณ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ดาราศาสตร์ และสารพัดศาสตร์ที่เกี่ยวข้องจนทำให้สมองไหลบ้าง (อ่านผ่านตรงนั้นไป) แต่ปูเรื่องและดำเนินเรื่องสนุกมาก เป็นการตัดไปมา ระหว่าง สถานการณ์บนยานเฮลแมรี (ที่เหลือมนุษย์อยู่แค่หนึ่งเดียว) และ สถานการณ์บนโลก ก่อนที่ตัวเอกจะ (โดนบังคับ) ไปเป็นตัวแทนของคนที่ขึ้นยานเพื่อทำภารกิจ
ชอบช่วงเวลาที่ตัวเอกใช้ชีวิตกับคู่หูใหม่ (Rocky) ที่เป็นวิศวกรมากๆ คนจากต่างดาวสองคน ที่มาจากคนละที่ คนละภาษา คนละสภาพการใช้ชีวิต มาพยายามช่วยกันกอบกู้ (ดาวฤกษ์ในระบบ) โลกของตัวเอง จะมีสถานการณ์ให้ฝ่าฟันเรื่อยๆ เกิดปัญหานู่นนี่นั่น ช่วยกันหาทางแก้ไปเรื่อย การยอมช่วยเหลือกันและกันในสภาวะคับขัน (แบบที่ถึงแก่ชีวิตของอีกฝ่ายได้เลย)
(สปอยล์) ทั้งสองโลกจบลงแบบ Happy คือช่วยชีวิตคนบนดาวตัวเองได้ ไรแลนด์ เกรซ ได้เป็นครูของเด็กๆ เหมือนเดิมแต่ไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์!
ลอง Search กูเกิ้ลดู เหมือนจะทำเป็นภาพยนตร์ปี 2026 ต้องรอดูแล้ว
ขอบคุณหงส์ที่ให้ยืมมาอ่านจ้า
