#priwreadbooks Animal Farm แอนิมอล ฟาร์ม

Parima Spd
2 min readJun 2, 2019

#Arrow George Orwell เขียน สรวงอัปสร กสิกรานันท์ แปล

หนังสือที่เป็นประเด็นในโซเชียลช่วงไม่กี่วันมานี้ เพราะคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แนะนำให้ทุกคนอ่านกัน ตอนแรกก็ว่าจะไปหาซื้อ โชคดีที่เสือมีเล่มนี้ เลยขอยืมมาอ่านซะหน่อย โดยมีเวลา 1 คืนถ้วน ในวันที่พวกเรามา Outing กัน (คืนวันเสาร์) เล่มนี้เป็นแบบสองภาษา แน่นอนว่าจะอ่านให้จบได้ ต้องอ่านภาษาไทย (55+) ถ้าอ่าน EN เกรงว่าจะทำ Speed ไม่ได้ (แล้วค่อยมาเปิดอ่าน EN บางประโยคที่อยากอ่าน)

เรื่องย่อ

ฟาร์มแห่งหนึ่งมีคนชื่อนายโจนส์ และภรรยาเป็นเจ้าของ ซึ่งนายโจนส์ไม่ใช่เจ้าของที่ดีนัก ขี้เกียจและขี้เมา ใช้งานแต่สัตว์ มีอาวุธพร้อมทำร้ายสัตว์เพื่อให้เชื่อฟัง ในค่ำคืนหนึ่ง เมเจอร์ หมูอาวุโส ก็ได้กล่าวปาฐกถาแก่เหล่าสัตว์ทั้งหลายในฟาร์ม โดยมีใจความสำคัญว่า มนุษย์เอาแต่บริโภค แต่ไม่เคยผลิต มนุษย์เป็นศัตรู ที่หากเหล่าสัตว์กำจัดมันไปได้ ก็จะแก้รากเหง้าของปัญหาแห่งความเหนื่อยยาก หิวโหยได้ตลอดกาล

มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียว ที่บริโภคอย่างสิ้นเปลืองโดยไม่เป็นผู้ผลิต เขาไม่ให้นม ไม่ออกไข่ เขาอ่อนแอเกินกว่าจะดึงคันไถ เขาไม่สามารถวิ่งได้เร็วพอที่จะจับกระต่าย แต่เขาก็ยังได้เป็นนายเหนือสัตว์ทั้งปวง เขากำหนดให้สัตว์ทั้งหลายทำงานแล้วตอบแทนด้วยส่วนปันอาหารอันน้อยนิด เพียงแค่พอประทังไม่ให้พวกเราอดตาย ส่วนที่เหลือทั้งหมดมนุษย์ก็เก็บไว้ให้ตัวเองและคนงาน พวกเราถ่ายลงไปในดิน มูลของพวกเราเป็นปุ๋ย ให้ความอุดมสมบูรณ์ ทว่ายังไม่มีตัวใดในพวกเราที่จะได้เป็นเจ้าของสิ่งใดมากไปกว่าผิวหนังอันเปลือยเปล่าของเราเอง

เจ้าแม่วัวทั้งหลายที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้านี้ น้ำนมมากมายกี่พันแกลลอนที่พวกเจ้าผลิตได้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกับน้ำนมเหล่านั้น น้ำนมซึ่งควรจะได้ใช้เลี้ยงลูกๆ ของพวกเจ้าให้แข็งแรงเพื่อการสืบสายพันธุ์ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป ทุกอย่างจะต้องหายไปในลำคอของศัตรูของพวกเรา

แม่ไก่ทั้งหลาย พวกเจ้าต้องวางไข่กี่ฟองแล้วในปีนี้ และมีสักกี่ฟองที่ได้ฟักเป็นลูกของพวกเจ้า ส่วนที่เหลือทั้งหมดถูกส่งไปที่ตลาดเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินกลับมา ให้มนุษย์และคนงานของเขา

เจ้าแม่ม้า ลูก 4 ตัวที่เจ้าคลอดออกมานั้นอยู่ที่ไหน ลูกที่ควรจะได้ดูแลและสร้างความชื่นใจแก่เจ้าในวัยชรานั้นอยู่ที่ไหน แต่ละตัวถูกขายเมื่ออายุ 1 ปี นั่นหมายความว่าเจ้าจะไม่มีวันได้เห็นพวกเขาอีกเลย เพื่อตอบแทนการคลอดลูกทั้ง 4 ครั้งกับแรงงานทั้งหมด เจ้าได้รับอะไรกลับมาบ้าง นอกจากส่วนปันอาหารอันน้อยนิดกับห้องเล็กๆ คอกหนึ่ง

ไม่มีสัตว์ตัวไหนเลยที่จะหนีพ้นความโหดร้ายได้ ในท้ายที่สุด เจ้าหมูขุนทั้งหลายที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันนี้ เจ้าทุกตัวจะต้องกรีดร้องขอชีวิตบนเขียงภายในอีกไม่ถึงปี ความน่าสะพรึงนี้จะต้องมาถึงพวกเราทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นแม่วัว หมู แม่ไก่แก่ พวกเราทุกตัว แม้แต่ม้าและสุนัขก็มิได้มีชะตากรรมที่ดีไปกว่านี้

เจ้าม้าหนุ่ม ในวันที่กล้ามเนื้อแข็งแกร่งเป็นเลิศของเจ้าสูญเสียพละกำลัง เขาจะขายเจ้าให้คนรับซื้อสัตว์ที่หมดประโยชน์ เขาจะเชือดคอเจ้า แล้วต้มเนื้อเจ้าให้หมาล่าเนื้อกิน

สำหรับพวกสุนัขเมื่อพวกเขาแก่ชรา ฟันร่วงหมดปาก เขาจะเอาก็อิฐมามัดรอบคอพวกเขา แล้วจับถ่วงน้ำลงในบ่อที่อยู่ใกล้ที่สุด

นี่ยังไม่เป็นที่กระจ่างชัดสำหรับพวกเจ้าอีกหรือสหาย ว่าความชั่วร้ายทั้งหมดทั้งมวลในชีวิตของพวกเราเป็นผลมาจากการกดขี่ของมนุษย์ เพียงแค่กำจัดมนุษย์เสีย ผลผลิตจากแรงงานของพวกเราก็จะเป็นของพวกเราเอง

แล้วจงจำไว้ อุดมการณ์ของพวกเจ้าจะต้องไม่แกว่ง ต้องไม่มีความโต้แย้งอันจะนำไปสู่การหลงทาง อย่าฟัง หากพวกเขามาบอกว่ามนุษย์กับสัตว์นั้นมีผลประโยชน์ร่วมกัน

มนุษย์ไม่เคยสร้างผลประโยชน์ให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากตัวเอง สัตว์อย่างพวกเราจะต้องสร้างสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวและกลมเกลียวกันในสัมพันธภาพอย่างที่สุด ในการต่อสู้จงจำไว้ว่า มนุษย์ทุกคนคือศัตรู สัตว์คือสหาย เราต้องย้ำเตือนว่า ภาระหน้าที่ของพวกเราในการเป็นศัตรูต่อมนุษย์ และวิถีทางของเรา สิ่งใดก็ตามที่ดำเนินด้วยสองขาคือศัตรู สิ่งใดก็ตามดำเนินด้วยสี่ขาหรือด้วยปีกคือมิตร

และจดจำไว้ด้วยว่า ในการต่อสู้กับพวกมนุษย์ พวกเราจะต้องไม่เหมือนหรือคล้ายคลึงกับพวกเขา แม้แต่เมื่อพวกเจ้าได้ชัยชนะเหนือพวกเขา ก็จงอย่าได้นำเอาความชั่วร้ายเช่นพวกเขามาใช้ ต้องไม่มีสัตว์ตัวใดอาศัยอยู่ในบ้าน หรือนอนบนเตียง หรือสวมเสื้อผ้า หรือดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ หรือสัมผัสเงินตรา หรือมีส่วนร่วมในการค้า พฤติกรรมของมนุษย์ทุกอย่างล้วนเป็นความชั่วร้าย และเหนืออื่นใด สัตว์ต้องไม่ปกครองแบบเผด็จการเหนือสัตว์ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะอ่อนแอหรือแข็งแกร่ง ฉลาดหรือซื่อๆ พวกเราทุกตัวล้วนพี่น้อง ต้องไม่มีสัตว์ตัวใดฆ่าสัตว์ตัวอื่น สัตว์ทุกตัวล้วนเสมอภาคกัน

หลังจากนั้นไม่นาน เมเจอร์หมูชรา ก็เสียชีวิต โดยมีหมู 3 ตัว ทำหน้าที่สืบทอดเจตนารมณ์ของเมเจอร์ ต่อไป หมูสามตัวที่ชื่อ นโปเลียน สโนว์บอล และสเควลเลอร์ ได้นำพาเหล่าสัตว์ ขับไล่นายโจนส์ออกไปจากฟาร์มได้ในที่สุดในวันที่โชคชะตาเข้าข้างพวกสัตว์ และได้จัดทำบัญญัติ 7 ประการ ออกมา คือ
1. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสองขาคือศัตรู
2. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสี่ขาหรือมีปีกคือมิตร
3. สัตว์จะต้องไม่สวมเสื้อผ้า
4. สัตว์จะต้องไม่นอนบนเตียง
5. สัตว์จะต้องไม่ดื่มสุรา
6. สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง
7. สัตว์ทุกตัวเท่าเทียมกัน
โดยมีคติพจน์สั้นๆ ว่า “สี่ขาดี สองขาเลว” (ที่พวกแกะเอาแต่พูดอยู่เรื่อยๆ)

สโนว์บอล เป็นหมูที่มีความคิดสร้างสรรค์ พยายามที่จะสานต่ออุดมการ์ของหมูอาวุโส เมเจอร์ที่ลาจากโลกนี้ไป
สเควลเลอร์ เป็นหมูที่มีวาทศิลป์ ทำหน้าที่พูดกล่อมสัตว์ต่างๆ
นโปเลียน เป็นหมูที่ต้องการอำนาจ แอบซ่องสุมเอาลูกสุนัขที่เพิ่งคลอดมาเป็นกองกำลัง มีแกะทำหน้าที่คอยท่องคติพจน์ล้างสมอง

แรกๆ หลังจากไล่มนุษย์ออกจากฟาร์ม ก็เหมือนจะดูดี ทุกคนช่วยกันขยันขันแข็ง ซื่อสัตย์ ได้อาหารที่มากกว่าเดิม และแล้วความขัดแย้งก็เกิดขึ้น ทุกๆ ครั้งที่สโนว์บอล เสนอไอเดียอะไรดีๆ ออกมา นโปเลียนก็จะขัดอยู่ตลอด แกะของนโปเลียน ก็คอยประสานเสียงพูดคติพจน์ "สี่ขาดี สองขาเลว" แทรก นโปเลียนพยายามใช้คติพจน์ ทำให้เหล่าสัตว์อื่นๆ เกลียด และกลัวมนุษย์ มองว่ามนุษย์ คือ สิ่งเลวร้ายที่สุด และพร้อมยอมรับกับทุกอย่าง เพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์กลับมา

อยู่มาวันหนึ่งเหล่าสัตว์จับได้ว่า Apple และนมของแม่วัว (ที่เชื่อว่าผสมในอาหารแล้วจะดี) กลับถูกแอบเก็บไปยังห้องของพวกหมู สเควลเลอร์ หมูช่างพูด จึงทำหน้าที่ไปกล่อมสัตว์ต่างๆ ว่า Apple และนมของแม่วัว ที่หมูกินเข้าไป ก็เพื่อให้ร่างกาย และสมองแข็งแรง เพื่อที่จะได้คิดป้องกันไม่ให้นายโจนส์กลับมาไง ไม่กลัวว่านายโจนส์จะกลับมาหรอกหรือ สเควลเลอร์ เอาเรื่องมนุษย์มาขู่สัตว์อื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหมูกลายเป็นสัตว์ที่มีอภิสิทธิ์ เหนือสัตว์อื่น

สโนว์บอล พยายามที่จะขายไอเดีย ที่จะให้เหล่าสัตว์สร้างนวัตกรรมกังหันลม เพื่อผ่อนแรงในการทำงาน แต่นโปเลียนไม่เห็นด้วย และอยากให้สัตว์ต่างๆ ทำงานต่อไป
นโปเลียนพูดแต่ว่า เรื่องสร้างกังหันลม เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดมาหักล้าง แล้ววันลงมติ นโปเลียนก็แอบปล่อยให้ฝูงหมาวัยรุ่นที่ตัวเองเลี้ยงเอาไว้ มาไล่กัดสโนว์บอล จนสโนว์บอลหนีออกจากฟาร์มไปในที่สุด สเควลเลอร์ ทำหน้าที่พูดกล่อมสัตว์อื่นๆ อยู่ตลอดเวลาว่า ถ้ากลัวนายโจนส์กลับมา ก็ต้องเชื่อฟังนโปเลียน แต่เมื่อสโนว์บอลจากไป นโปเลียนก็เอาแผนการสร้างกังหันลมมาให้เหล่าสัตว์ช่วยกันทำเสียเอง

สเควลเลอร์ วันๆ ก็คอยเอาตัวเลขมาเล่าให้สัตว์ต่างๆ ฟังว่า ผลผลิตเพิ่มขึ้น รายได้มากขึ้น แต่สัตว์ต่างๆ ไม่เคยตรวจสอบได้เลย ทำได้แค่เชื่อในสิ่งที่สเควลเลอร์พูด
แต่เมื่อสัตว์ต่างๆ ได้รับการแบ่งปันผลผลิตที่น้อยลงเรื่อยๆ สัตว์ต่างๆ ก็เริ่มที่จะไม่เชื่อในสิ่งที่สเควลเลอร์พูด แต่ไม่เชื่อ แล้วจะทำไงได้ ในเมื่อมีฝูงหมาที่นโปเลียนเลี้ยงเอาไว้คอยขู่อยู่ตลอดเวลา

วันหนึ่งพวกหมูก็ย้ายจากฟาร์มเข้าไปอยู่ในบ้านของมนุษย์ สัตว์ต่างๆ ต่างทักท้วงว่า นี่มันผิดข้อตกลงนี่ ไหนว่าสัตว์จะไม่นอนบนเตียงไง แต่พอไปดูที่บัญญัติ 7 ประการ ก็พบว่ามันถูกแอบแก้เป็น "สัตว์จะไม่นอนบนเตียง พร้อมผ้าปูที่นอน" เสียแล้ว
พวกหมูก็อ้างว่า ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงเปล่าๆ ใครมีปัญหาอะไร! พวกเขาต้องทำงานหนัก ใช้ห้องในการทำงาน

และแม้ว่าสโนว์บอล จะไม่อยู่แล้ว แต่ชื่อของสโนว์บอลกลับถูกนำมาพูดให้ร้ายอยู่เสมอๆ อะไรที่ไม่ดี ล้วนจะถูกพูดว่า เป็นฝีมือของสโนว์บอลทั้งสิ้น สัตว์ตัวใดที่คิดถึงสโนว์บอล หรือไม่เชื่อฟังนโปเลียน ต่างถูกลงโทษ จนในที่สุดก็มีการลงโทษจนถึงตาย

สัตว์ต่างๆ เริ่มโวยวาย ไหนบัญญัติบอกไว้ว่า สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง ไม่ใช่เหรอ แต่ก็มาพบภายหลังว่า บัญญัติข้อนั้น ได้ถูกแก้ไขเป็น "สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง โดยไม่มีเหตุผล"

แถมข้อที่ว่า "สัตว์จะต้องไม่ดื่มสุรา" ก็ถูกแก้เป็น "สัตว์จะต้องไม่ดื่มสุรา มากเกินไป"
ยุคหลังจากนายโจนส์ภายใต้การนำของหมูนโปเลียน สัตว์ต่างๆ มีแต่ความยากลำบาก ทำงานหนักขึ้น

ม้าที่ชื่อ บ็อกเซอร์ เป็นม้าที่มีความหวังกับการปฏิวัติมากๆ อาสาทำงานหนักมาโดยตลอด ทำงานสร้างกังหันลมหามรุ่งหามค่ำ จนวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุขณะอยู่ระหว่างการลากก้อนหิน กลับถูกนโปเลียนหลอกว่าจะพาไป รพ. แต่กลับส่งไปโรงฆ่าสัตว์ เพื่อแลกกับเงินค่าเหล้าของพวกหมู

สุดท้ายหมู ก็ลุกขึ้นมายืนสองขา พร้อมกับให้แก้เปลี่ยนคติพจน์ของฟาร์มเป็น "สี่ขาดี สองขาดีกว่า" แถมบัญญัติข้อสุดท้าย ก็ถูกแก้ไขเป็น "สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน แต่บางตัวมีความเท่าเทียมมากกว่า"

ฟาร์มที่พวกสัตว์อาศัยอยู่ รวยขึ้น หรูหราขึ้น แต่พวกสัตว์ต่างๆ กลับไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเลย สัตว์ที่ร่ำรวย ก็มีแต่พวกหมู และฝูงหมา หมูเริ่มทำการคบค้ากับมนุษย์ ตอนนี้สัตว์ต่างๆ ในฟาร์ม แยกไม่ออกแล้วว่า พวกหมูนั้นต่างจากมนุษย์อย่างนายโจนส์อย่างไร

เสียงโห่ร้องกึกก้องดังขึ้นเช่นเดียวกับเมื่อครู่ แก้วเบียร์ก็หมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ฟอง ทว่าขณะที่บรรดาสัตว์ที่อยู่ภายนอกจ้องมองเข้ามา ดูเหมือนภาพที่ปรากฏแก่พวกเขามีบางอย่างที่แปรเปลี่ยนไป สิ่งใดกันที่เปลี่ยนแปลงไปในใบหน้าของพวกหมู หากแต่สิ่งใดกันที่ดูเหมือนกำลังหลอมละลายและแปรเปลี่ยน

ไม่มีคำถามแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของพวกหมู บรรดาสัตว์ที่อยู่ภายนอกมองจากหน้าหมูไปยังหน้าคน จากหน้าคนไปยังหน้าหมู และจากหน้าหมูไปยังหน้าคนอีกครั้ง ตอนนี้พวกเขาบอกไม่ได้แล้วว่าหน้าใครเป็นหน้าใคร

มันเป็นหนังสือที่เขียนมาแดกดันสมัยรัสเซีย เรื่องของโซเวียต แต่น่าแปลกที่อ่านแล้วกลับสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยแบบแปลกๆ ที่เหมือนจะเกิดขึ้นในประเทศของเรา (อยู่หลายครั้งหลายครา)

ที่เรารู้สึกได้จากเล่มนี้คือ ตราบใดที่คนธรรมดาได้มีโอกาสรับอำนาจ ได้ทำตัวแตกต่าง เหมือนอยู่สูงกว่าผู้อื่น ผู้นั้นก็มีโอกาส (สูงมาก) ที่จะมีกิเลส และทำตัวเป็นแบบคนที่ตัวเองเคยไม่ชอบ หรือคนที่ตัวเองปฏิวัตินั่นแหละ

  • อำนาจเป็นเรื่องน่ากลัว ถ้าเราไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
  • ความถูกต้องคืออะไรกันแน่
  • การปกครองที่ดีคือสิ่งไหน
  • ค่าของชีวิตผู้ที่ให้ความซื่อสัตย์ อดทนมาตลอดชีวิต จะพบบั้นปลายของชีวิตที่สุขสบายหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการหาเงินเพิ่มขึ้นกันแน่
  • เราวัดค่าของชีวิตกันที่อะไร
  • ทำไมคนกลุ่มหนึ่งต้องเป็นผู้เสียสละมากกว่าคนอื่น ในขณะที่บางกลุ่มไม่ต้องเสียอะไรเลย
  • อำนาจเป็นของผู้ถือกฎ กฎสามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยที่คนรับฟังกฎไม่มีแม้แต่โอกาสจะโต้เถียงอย่างนั้นหรือ
  • คนที่เคยเป็นมิตร เป็นหัวคิด เมื่อถึงเวลาขัดผลประโยชน์ก็จับใส่ข้อหา ป้ายความผิด โดยที่คนอื่นเคลืองแคลงใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เป็นแบบนี้มามากเท่าไหร่กัน

เมื่อเราไม่พอใจในการปกครองรูปแบบกดขี่ เราก็ปฏิวัติ แล้วก็มีคนใหม่ขึ้นมา ทำท่าเหมือนจะดี สุดท้ายก็กลับกลายเข้าวนในลูปเดิม เราจะหลุดออกจากวงโคจรแบบนี้ได้อย่างไร

แม้จะอ่านจนจบ เราก็ยังคงไม่พบทางออกที่แน่ชัดอยู่ดี

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

Responses (1)