#priwreadbooks Disneyland ทำอะไร ทำไมใคร ๆ ก็หลงรัก

Parima Spd
2 min readNov 22, 2020

#WeLearn ซากุราอิ เอริโกะ เขียน ภัทรวรรณ ศรประพันธ์ แปล

Disneyland เป็นสวนสนุกที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รักมากที่สุดของชาวญี่ปุ่น แต่น้อยคนจะรู้ว่าที่นั่นมี “เวทมนตร์” ซ่อนอยู่จริง ๆ เวทมนตร์ที่ว่านี้เป็นที่รู้กันในหมู่พนักงานซึ่งช่วยสะกดให้ผู้มาเยือนหลงรักและอยากกลับมาอีกครั้ง หลายเทคนิคพิเศษที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงจิตใจ พฤติกรรม และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างของคุณให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นความลับจากคู่มือฝึกอบรมของดิสนีย์แลนด์ที่ใช้ฝึกฝนพนักงานมาแล้วกว่าหนึ่งแสนคน

Chapter 1 การฝึกจิตใจให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนและทำงานได้อย่างราบรื่น

  • 01 นึกภาพว่าคนที่อยู่รอบข้างเป็น “แขก VIP” เมื่อทำลายกำแพงในใจได้ ความสัมพันธ์กับคนอื่นก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นฝ่ายทักทายคนอื่นก่อนเสมอ
  • 02 เวลาทุกข์ใจให้ลองคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ดู พวกเธอกล้าเผชิญหน้ากับโชคชะตา รู้จักปรับตัว และล้วนแต่เป็นคนที่พึ่งพาตนเองเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
  • 03 คิดเสมอว่า “ทุกสิ่งที่สามารถมองเห็นได้คือโชว์” กำหนดมาตรฐานการแต่งการในการทำงาน
  • 04 วางตัวเป็น “แคสต์” ทันทีที่ก้าวเข้าไปในที่ทำงาน ยืนหลังตรงและเดินอย่างสง่าผ่าเผย
  • 05 ปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานแบบเดียวกับ “เกสต์”
  • 06 ทำให้คนที่อยู่ใกล้ตัวมีความสุข
  • 07 ฝึกพูดให้ติดปากว่า “ทำงานไปเพื่ออะไร”
  • 08 เลือกสิ่งที่ทำให้รู้สึกใจเต้น โดยไม่สนใจเรื่องผลประโยชน์ ประสบการณ์จะนำความสุขมากกว่าสิ่งของ
  • 09 พยายามผ่อนคลายตัวเองในเวลาสำคัญ
  • 10 อย่าพูดแง่ลบในทำนองว่า “แต่” “แต่ว่า” “ถึงยังไงก็…อยู่ดี”
  • 11 ไปทำงานด้วยความรู้สึกว่า เป็นตัวละครเอกของเรื่อง แสดงบทบาทอย่างเต็มที่เพื่อความสุขของใครบางคน
  • 12 คิดว่าทุกวันเป็น “การแสดงโชว์ครั้งแรก” พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
  • 13 กำหนดสีนำโชค
  • 14 ลองเปลี่ยนกลิ่นหอมที่อยู่รอบตัวดู พกกลิ่นหอมที่ชอบไปด้วยในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า
  • 15 เขียนสิ่งที่ทำให้รู้สึกไม่ดีออกมา แล้วลืมมันไป
  • 16 เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ ให้ออกห่างจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น หายใจลึกๆ

Chapter 2 วิธีสื่อสารที่ช่วยให้คนรอบข้างยิ้มโดยอัตโนมัติ

  • 17 ลองพูดเลียนเสียงมิกกี้ เมาส์ การพูดเสียงสูง จะช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจ
  • 18 ยิ้มทุกครั้งที่สบตากับคนอื่น
  • 19 พูดเรื่องที่อยากบอกแบบที่เข้าใจได้ง่ายๆ 3–4 อย่างเป็นตัวเลขที่กำลังดี
  • 20 ค้นหาข้อดีของเพื่อนแล้วกล่าวชมอย่างชัดเจน
  • 21 เลือกใช้คำพูดที่ทำไห้ทุกคนรู้สึกมีแรงจูงใจ
  • 22 แทนที่จะใส่ใจกับการพูด ให้ตั้งใจฟังเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คอยสบตาผู้พูดแล้วพูดตอบเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกว่า “กำลังฟังอยู่”
  • 23 เมื่อคนอื่นมีปัญหาให้รีบยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
  • 24 เขียนจดหมายเพื่อบอกความรู้สึกของตัวเอง เพื่อขอบคุณคนอื่น เน้นย้ำว่างานของเขามีประโยชน์อย่างไร
  • 25 ลองถามว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง” พูดคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานวันละครั้งกับคนในทีม
  • 26 กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง อย่าบอกแต่ปัญหา ให้เสนอวิธีแก้ปัญหาด้วย ให้คำแนะนำอย่างสุภาพอ่อนโยน
  • 27 ชมเชยก่อนแล้วค่อยบอกสิ่งที่อยากจะสื่อสาร
  • 28 เมื่อถูกขอร้องให้ทำเรื่องยากๆ ให้กล้าที่จะบอกปฏิเสธ หลักสำคัญคือให้จินตนาการว่าคนที่ถูกคุณปฏิเสธน่าจะรู้สึกอย่างไร แล้วเสนอทางเลือกแทน
  • 29 ลองแสดงท่าทางเกินจริงดู
  • 30 กล่าวทักทายแบบที่ทำให้อีกฝ่ายสามารถตอบกลับได้ ให้ถามคำถามประเภท 5W1H
  • 31 รับฟังคำแนะนำอย่างเปิดใจ
  • 32 เวลาจะพูดเรื่องสำคัญให้เก็บไว้พูดตอนที่เจอหน้ากัน
  • 33 ปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานอย่างอ่อนโยน อย่าโกหกกับตัวเองและคนอื่น
  • 34 ลองพึ่งพาคนที่เราไม่ชอบหน้าดู เราจะเติบโตขึ้นเมื่อสามารถรับมือกับคนที่เราไม่ชอบหน้าได้
  • 35 ขอบคุณ 4 ครั้ง ตอนเหตุการณ์เกิดขึ้น วันรุ่งขึ้น สัปดาห์ถัดมา เดือนถัดมา

Chapter 3 พฤติกรรมที่ทำให้คนรอบข้างคิดว่า “รู้สึกดีที่ได้อยู่ด้วย”

  • 36 ไปทำงานเร็วขึ้น 30 นาที เพื่อทำความสะอาดที่ทำงานที่ทุกคนใช้ร่วมกัน
  • 37 ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • 38 เมื่อถึงคราวคับขันให้ร่าย “เวทมนตร์เล็กๆ” การแสดงความใส่ใจอีกฝ่าย จะช่วยเปลี่ยนแปลงบรรยากาศได้
  • 39 อย่ากังวลกับเรื่องในวันข้างหน้า จัดการเรื่องตรงหน้าอย่างเต็มกำลัง
  • 40 ทำความสะอาดโต๊ะทำงานให้เอี่ยมอ่อง
  • 41 ลองทำสิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อน
  • 42 ตั้งคำถามกับงานที่อยู่ตรงหน้าว่า “ทำไม” 3 ครั้ง หากเข้าใจแก่นแท้ของงาน เราก็จะสามารถทำต่อไปได้อย่างมั่นใจ สาเหตุที่ทำ ไม่ใช่เรื่องที่ทำ
  • 43 รายงานความคืบหน้าของงานก่อนที่จะถูกถาม
  • 44 ทำงานโดยคิดไปด้วยว่า “ทำงานนั้นไปเพื่ออะไร”
  • 45 ลองช่วยงานเพื่อน การได้ลองทำงานในบทบาทอื่นจะช่วยให้คุณภาพในการทำงานของตัวเองสูงขึ้น และการได้รู้ว่าเพื่อนร่วมงานกำลังทำอะไรอยู่เป็นเรื่องสำคัญ
  • 46 อย่ามองข้ามสิ่งที่น่าสนใจ สนใจใคร่รู้สิ่งต่างๆ อยู่เสมอ
  • 47 กินอาหาร ออกกำลังกาย และนอนหลับอย่างเพียงพอ
  • 48 อย่าแบกรับงานมาทำคนเดียว จดจ่อกับงานที่มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่ทำได้
  • 49 จดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยากจดจ่อ ไม่เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น
  • 50 ระลึกไว้ว่า “เวทมนตร์แห่งการใส่ใจ” จะช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน

ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้อง Work-life balance หรอก แต่ควรจะใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับจังหวะชีวิตในช่วงนั้นมากกว่า ถ้าช่วงนี้กำลังรุ่งเรื่องงาน แม้งานจะเยอะหรือหนักก็อยากให้สนุกกับการทำงานเข้าไว้ เพราะไม่แน่ว่าในปีหน้าโอกาสที่คุณจะได้ทำงานยากๆ แล้วเกิดการก้าวหน้าในชีวิตอาจไม่มีแบบในปีนี้แล้ว หรือถ้าจะหันมาโฟกัสกับครอบครัวก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าในช่วงจังหวะนั้นของชีวิตเหมาะสมที่คุณควรจะต้องหันมาโฟกัส ชีวิตคือการเลือกที่จะปรับน้ำหนักการให้ความสำคัญแตกต่างกันไปตามบริบทของชีวิตแต่ละคนที่ต่างไป

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

No responses yet