#priwreadbooks NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย

Parima Spd
2 min readJan 24, 2022

--

#AmarinHowTo แอนเนท ลาฟไร์เซน เขียน อณรรฆวีร์ เติมสินสุข แปล

เรากำลังถูกค่านิยมของสังคมยุคปัจจุบันหล่อหลอมว่า ฉันต้อง productive ตลอดเวลา ยิ่งทำงานได้มากเท่าไหร่ยิ่งดี ฉันควรทำได้ทุกอย่างและควรทำหลายงานพร้อมกัน จนเคยชินกับการทำงานทั้งวันทั้งคืน ช่วงหยุดสุดสัปดาห์หรือหยุดยาวก็ต้องแบกงานกลับไปทำ พร้อมสแตนบายรับโทรศัพท์หรือ LINE จากทั่วสารทิศ กลายเป็นคนที่รู้สึกผิดกับการพักผ่อนหรืออยู่เฉยๆ มองว่านั่นเป็นลักษณะของคนขี้เกียจ

แต่เราไม่ใช่หุ่นยนต์ การทับถมทำงานหนัก ทำให้ร่างกายอ่อนล้า ป่วยง่าย เครียดสะสม และอาจนำไปสู่ผลร้ายแรงอื่น คุณจึงต้องใจดีกับตัวเองบ้าง ปล่อยให้กายใจได้กดปุ่มพักชั่วคราวเพื่อใช้พลังงาน นี่แหละคือนิกเซน หรือพลังของการไม่ทำอะไรเลย

NIKSEN ศิลปะของการไม่ทำอะไรเลย ปรัชญาการใช้ชีวิตของชาวดัตช์ (เนเธอร์แลนด์) หนึ่งในปรัชญาสำคัญที่ขับเคลื่อนวิถีชีวิตของคนเนเธอร์แลนด์ และช่วยให้ดินแดนแห่งนี้ติดอันดับประเทศที่น่าอยู่ และประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในเกือบทุกปีที่มีการจัดอันดับ นิกเซน ถูกใช้เป็นคำกริยากันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวดัตช์ มันหมายถึงการพักเพื่อชาร์จพลัง พักแบบพักจริงๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย

ชาวดัตช์ใช้เคล็ดลับการทำนิกเซนเป็นประจำเพื่อช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ช่วยให้สมองปลอดโปร่งและกลับมาคิดงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดสิ่งรบกวนต่างๆออกจากชีวิตของเรา การทำนิกเซน ไม่ได้เท่ากับ ขี้เกียจ

นิกเซนช่วยให้:

  • มีเรี่ยวแรงมากขึ้น เพราะได้รับการเติมพลังกายและพลังใจ
  • สุขภาพดีขึ้น บริหารพลังงานได้ดีขึ้น มีสมาธิ ป้องกันภาวะหมดไฟ
  • ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น
  • สมองแข็งแรงขึ้น เพราะได้หยุดพักเพื่อฟื้นฟูความเสียหาย
  • เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น ทั้งการทำงานและการบริหารเวลา
  • เพิ่มความตระหนักรู้ในตัวเอง ให้เวลาตัวเองได้ทบทวนว่าอะไรคือสิ่งสำคัญ
  • อาจเกิดการตื่นรู้ ทำให้เกิดปัญญาในการแก้ปัญหา
  • มีเวลาวางแผนเป้าหมายระยะยาวได้มากขึ้น
  • นอนหลับดีขึ้น ความเครียดลดลง

การดูซีรีส์ที่ชอบแบบให้จบภายในคืนเดียวอาจฟังดูเป็นการนิกเซน แต่จริงๆ แล้วการทำเช่นนี้อาจเพิ่มระดับความเครียด ความวิตกกังวล และความซึมเศร้าเมื่อดูซีรีส์แบบมาราธอน สมองจะผลิตโดพามีนซึ่งเป็นสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับการเสพติด นี่คือเหตุผลที่ว่าเหตุใดเราจึงรู้สึกซึมหลังจากดูตอนสุดท้ายของซีรีส์จบ ลองจำกัดเวลาดูและกำหนดล่วงหน้าว่าจะอนุญาตให้ตัวเองดูกี่ตอน แล้วตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อดึงตัวเองกลับสู่ความเป็นจริง

คำประกาศเจตนาแห่งนิกเซน

  1. ฉันจะให้ความสำคัญกับการอยู่เฉยๆ เป็นอันดับแรก
  2. ฉันจะอนุญาตให้ตัวเองอยู่เฉยๆ
  3. ฉันจะกำหนดเวลาเพื่ออยู่เฉยๆ ทุกวัน
  4. ฉันจะทำให้ช่วงเวลาว่างเปล่าเหล่านั้นกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
  5. ฉันจะทำให้การอยู่เฉยๆ กลายเป็นกิจวัตรไปชั่วชีวิต

ทลายความเชื่อผิดๆ เราต้องกล้าที่จะทำตัวเฉื่อยบ้าง

  1. ฉันยุ่งเกิดกว่าจะอยู่เฉยๆ นั่นก็เพราะเราไม่ให้เวลากับตัวเอง และคิดว่าเวลาที่จะให้ตัวเองได้พักไม่มีความสำคัญ ฉันไม่ใช่ยอดมนุษย์ที่จะทำได้ทุกอย่าง
  2. อยู่เฉยๆ แปลว่าขี้เกียจ จริงๆ แล้วมันอาจเป็นโลกต่างหากที่บีบให้เราทำอะไรหลายอย่างจนเกินไป ไหนจะตอบอีเมล ประชุม ข้อความ แชทต่างๆ ลองหาเวลาปลีกวิเวกออกมาบ้าง เวลาไม่ได้เป็นเงินเป็นทอง แต่เวลาเป็นของเรา หัดเริ่มปฏิเสธเสียบ้าง
  3. การพักเป็นเรื่องไม่ดี เพราะคนอื่นต้องการฉัน ลองนึกถึงคำแนะนำเรื่องการปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน คุณจะช่วยคนอื่นได้ก็ต่อเมื่อใส่หน้ากากออกซิเจนให้ตนเองแล้วเท่านั้น คุณจะทำประโยชน์ให้คนอื่นไม่ได้เลยหากตัวเองขาดพลังงาน เพราะคุณช่วยจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว การช่วยเหลือผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง แต่คุณต้องดูแลตัวเองก่อน

การอยู่เฉยๆไม่ใช่เรื่องผิด — เขียนลงในสมุดจดอ่านออกเสียง เขียนประโยคเดิมอีกครั้ง อ่านออกเสียงอีกครั้ง และทำซ้ำจนกว่าคุณจะเริ่มเชื่อตามนั้นจริงๆ

จัดลำดับความสำคัญใหม่

ลองคิดดูว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณอย่างไร คนที่ตอบอีเมลภายใน 1 ชั่วโมงหรือคู่ชีวิตที่แสนเอาใจใส่ ผู้ปกครองที่ดี เพื่อนที่ไว้ใจได้ ปัจจุบันนี้คุณมีโอกาสที่จะเลือกวิธีใช้ชีวิตมากกว่าในอดีตและออกแบบได้ดั่งใจ

เราต้องให้ความสำคัญกับเวลาว่าง คุณอาจไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายขนาดจะลดเวลาทำงานหรือขอลาพักผ่อนยาวๆ แต่ก็บริหารเวลาให้เหมาะกับตัวเองได้ คุณต้องการสิ่งใดเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสมบูรณ์และสมดุล ความสำเร็จทางหน้าที่การงานและเงินทอง ครอบครัว ชีวิตทางสังคมอันมีชีวิตชีวา สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี หรือการได้พัฒนาตัวเอง คำตอบนี้จะช่วยตัดสินว่า คุณปรารถนาสมดุลทางด้านการใช้ชีวิตและการงานรูปแบบใด แต่ต้องรู้จักหยุดและพิจารณาเสียก่อน

หลับตาแล้วนึกภาพแบบแผนอันมีจังหวะของท้องทะเล พยายามหายใจให้ตรงตามการเคลื่อนไหวขึ้นและลงของเกลียวคลื่น นึกภาพว่ามีคลื่นเคลื่อนตัวเข้ามาทุกครั้งที่คุณหายใจ ท้องขยายออก และค่อยๆ หายใจออกเพื่อปล่อยลม

คลื่นอาจดูวุ่นวายในช่วงแรก แต่เมื่อลมหายใจช้าลง คลื่นก็ค่อยๆ สงบลง

ลองเพิ่มนิกเซนเข้าไปในกิจวัตรประจำวัน รวมไปถึงการจัดห้องให้เราได้นิกเซนอย่างสงบ หนังสือให้ไอเดียไปไกลถึงการวางแปลนบ้านใหม่ โดยให้แบ่งห้องทำงาน ห้องนอน ห้องนั่งเล่นรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนิกเซน

ห้องนิกเซนคือห้องที่ทำให้เราได้หมั่นทบทวนตัวเอง ฝัน และอยู่เฉยๆ

แต่แน่นอนว่าทุกอย่างต้องสมดุล เช่นเดียวกันกับการจัดห้อง การจัดเวลาก็ต้องสมดุล เราต้องลองให้คะแนนกิจวัตรต่างๆ ที่เราทำ แล้วดูว่าเราได้คะแนนสูงที่กิจกรรมไหน ต่ำที่กิจกรรมไหน ถ้าสิ่งไหนได้คะแนนต่ำกว่า 5.5 ลงไปก็อาจต้องปรับตารางใหม่ โดยอาจเพิ่มเวลาพัก เวลาทำนิกเซนเพื่อให้ตารางสมดุลมากขึ้น

นิกเซนทุกวัน ทุกที่

วันอาทิตย์เป็นวันที่ชาวดัตช์จะได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ ร้านค้าปิดหมด ไม่มีใครต้องทำงาน ทุกคนพักผ่อนสบายใจ และทำให้เวลาเคลื่อนผ่านไปอย่างช้าๆ

เรื่องนี้รวมถึงการต้องพูดตรงๆ เพื่อปฎิเสธคนที่มาขอเวลาจากเรา ว่าเราต้องการเวลาให้ตัวเอง พูดอย่างจริงใจ เปิดเผย สั้น ง่าย ได้ใจความ เพราะอีกฝ่ายก็อาจกำลังคิดเหมือนกับเราก็ได้

แต่ถ้าเรามีเวลาน้อยจริงๆ เราก็ยังทำนิกเซนได้ อาจใช้เวลาเพียง 5 นาที จัดโต๊ะให้สะอาด 10 นาที นึกภาพที่ตัวเองรู้สึกพอใจและผ่อนคลาย หรือ 30 นาที ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

การนั่งเฉยๆ แล้วผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ จะช่วยทำให้เรารีเฟรชตัวเองได้ตลอดวัน

การขาดพื้นที่ว่างในจิตใจ หมายความว่าคุณไม่มีพื้นที่มากพอที่จะดื่มด่ำกับบทสนทนาหรือประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ เพราะจิตใจทำงานจนเต็มประสิทธิภาพแล้ว

บางครั้งสมองก็เป็นเหมือน internet browser ที่เปิดแท็บไว้มากจนล้น อย่าเก็บทุกอย่างเอาไว้ในสมอง แต่ให้เขียนลงไปแทน

สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับตัวเอง ทำพื้นที่ดังกล่าวให้สบาย นำธรรมชาติเข้ามาและปิดโทรศัพท์มือถือ อย่าเอาของไม่จำเป็นมาวางให้รก นี่คือพื้นที่หลบภัยที่ควรจะได้จดจ่อและทบทวนตนเอง

สร้างพื้นที่เพื่อแบ่งแยกระหว่างตัวเองและที่ทำงาน โดยต้องหนักแน่นว่าคุณทำสิ่งใดได้หรือไม่ได้ สิ่งสำคัญคือสร้างและรักษาช่องว่างระหว่างภาระงานและเวลาพักผ่อนให้ดี

  • อย่าเติมตารางประจำสัปดาห์จนปริ่มไปด้วยภาระงาน เลือกว่าคุณจะเข้าร่วมประชุมใด การประชุมนั้นเป็นประโยชน์กับคุณจริงไหม
  • อย่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เกิน 2 ชั่วโมงโดยไม่พัก
  • อย่าทำหลายสิ่งพร้อมกันโดยไม่จำเป็น
  • จดจ่ออยู่กับปัจจุบัน
  • อย่าเอาคอมพิวเตอร์ไปด้วยเวลาไปเที่ยวพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์
  • อย่าดูโทรศัพท์เวลานัดกินอาหารกับคนอื่น
  • อย่าตอบตกลงตอนที่เพื่อนร่วมงานชวนไปดื่มในคืนวันศุกร์ ถ้ารู้สึกเหนื่อยแล้วอยากกลับบ้านมากกว่า
  • อย่าปล่อยให้ลูกค้าโทรหรือส่งข้อความหาคุณนอกเวลางานและคาดหวังว่าจะได้คำตอบจากคุณทันที
  • อย่ายอมให้คนอื่นกดดันให้คุณตอบอีเมลภายใน 1 ชั่วโมง พวกเขาจะโทรหาคุณเองถ้าเป็นเรื่องด่วน

เทคนิค Pomodoro

ช่วยให้มีสมาธิและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกงานที่อยากทำให้เสร็จวันนี้ จับเวลาเป็นเวลา 25 นาที จดจ่อกับงานดังกล่าวโดยไร้สิ่งรบกวนจนกว่าเครื่องจับเวลาจะดัง พักผ่อน 5 นาที หลังจากใช้ระบบนี้ 4 ครั้ง คุณสามารถพักได้นานขึ้นเป็นเวลา 20 ถึง 30 นาที

กินกบตัวนั้นซะ!

หากงานของคุณคือการกินกบ 1 ตัว ก็ควรเริ่มวันด้วยการกินกบ และหากงานของคุณคือการกินกบ 2 ตัว ก็ควรเริ่มจากการกินกบตัวที่ใหญ่กว่า ทำงานชิ้นดังกล่าวโดยไม่คิดมากและอย่าหยุดจนกว่าจะทำเสร็จ ทำงานชิ้นดังกล่าวเป็นสิ่งแรกเมื่อเริ่มวัน ในตอนที่ที่ทำงานเงียบสงบ จิตใจกระจ่าง และพลังใจในการทำงานของคุณยังไม่พร่องไป

นิกเซนออนไลน์

ภาวะติดโซเชียลมีเดียแพร่กระจายไปทั่วโลก เราทุกคนต่างหยิบมือถือมาเช็คตลอดเวลาที่เราว่าง เช่น ตอนเข้าห้องน้ำ รอนัดหมอฟัน เดินทางไปทำงาน หรือรอประชุม เราอยากติดตามความเคลื่อนไหวของโลกใบนี้

หากต้องการใช้เวลาไปกับโทรศัพท์ให้น้อยลง ลองตั้งค่าหน้าจอเป็นสีขาวดำและปิดการแจ้งเตือนจาก Social Media

  • ปิดการแจ้งเตือนกลุ่ม Line/Facebook หรือกลุ่มไหนที่อาจไม่จำเป็นต่อชีวิตเรา ก็กดออกมา
  • ลบแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดีย และสตรีมมิ่งออก ใช้งานผ่าน web browser
  • กลับสู่ชีวิตไร้อินเทอร์เน็ตและลองอ่านหนังสือช้าๆ
  • ตั้งโหมดกลางคืน เพื่อตัดเสียงเรียกเข้าและข้อความรบกวน
  • หันกลับมาอ่านหนังสือที่เป็นกระดาษ แทนการอ่านออนไลน์
  • จัดระเบียบหน้าจอด้วยการลบแอปที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
  • ลองใช้แอปที่ทำให้เราออกห่างจากมือถือ หรือแอปที่ปิดกั้นการเชื่อมต่อกับ internet browser
  • ทุกครั้งที่เราเช็ค social media ให้ลองถามตัวเองดูว่า สิ่งนี้คุ้มกับเวลาที่ใช้ไปไหม มีสิ่งอื่นที่ฉันอยากจะใช้เวลา ไปกับมันมากกว่านี้ไหม

การที่มีคนอื่นอยู่ด้วยทำให้เราใส่ใจตัวเองได้ยาก

ความหวาดกลัวต่อการพลาดข่าวสาร ความอยู่ไม่สุข เลื่อนดูโพสต์ต่างๆใน Social Media อย่างหมกมุ่น แล้วเห็นเพื่อนๆ ทุกคนสวยและดูมีความสุขมากกว่า คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกเช่นนั้น อย่าเสียพลังงานไปกับการคิดว่า ตัวเองกำลังพลาดอะไรบ้าง จำไว้ว่าคุณจะได้เห็นแค่สิ่งดี

  • ภาพเซลฟี่ที่คุณเห็น อาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของเหตุการณ์นั้น
  • ยอมรับว่าคุณไม่สามารถเข้าร่วมการสังสรรค์ได้ทุกครั้ง
  • วันนี้คุณตัดสินใจจะทำอย่างอื่น และอย่างอื่นที่ว่าคือการดื่มด่ำไปกับการไม่ทำอะไรเลย

เมื่อเริ่มใช้เวลาส่วนตัวโดยที่รู้ว่าจิตใจอาจไม่สงบเท่าใดนัก ให้ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ในห้องอื่น หรือวางไว้ในลิ้นชักให้พ้นสายตา ให้ของขวัญตัวเองด้วยสิ่งที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ซึ่งจำเป็นต้องถือด้วยสองมือ อาจเป็นหนังสือหรือเครื่องดื่มตอนร้อนๆ จดจ่อกับสิ่งนั้นและตั้งใจกับการหายใจอย่างช้าๆ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลาย แล้วไม่นานคุณจะค่อยๆ ยินดีกับการพลาดข่าวสาร

การใช้เวลาไปกับตัวเองคือสิ่งสำคัญในการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และอาจช่วยให้คุณมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองใหม่

เวลาเครียด โกรธ หรือหมดแรง ปกติแล้วการอยู่ในบ้านไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น คุณต้องออกไปสูดอากาศสดชื่น ที่มีลมพัดและสะสางจิตใจให้แจ่มใส ออกไปสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว หรือชายหาด และหันหน้าเข้าหาธรรมชาติเหล่านั้น

ยอมรับว่าคุณปรากฏตัวทุกที่พร้อมกันไม่ได้ สิ่งเดียวที่ทำได้คือทำให้ดีที่สุด

หากคุณอยู่ไม่สุขและมีความคิดลุกโชนตลอดเวลา ลองเปลี่ยนความสนใจของตัวเองโดยการเพิ่มการเคลื่อนไหวเข้าไปในกิจกรรมผ่อนคลายที่ทำเป็นกิจวัตร อาจเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างเดินเล่นรอบเมือง หรือการฝึกทำสมาธิแบบเคลื่อนไหว เช่น โยคะ ไทเก๊กหรือการออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือให้ร่างกายของคุณอยู่ในโหมดผ่อนคลายและจดจ่อกับสิ่งที่ได้ยิน รู้สึก มองเห็น หรือได้กลิ่น เช่น ไปนวด ฟังเพลงคลาสสิค ฝึกคิดเป็นภาพ หรือมองดูใบไม้บนต้นเคลื่อนไหว หรือมองดูเมฆลอยไหวระหว่างที่ปล่อยให้จิตใจล่องลอยเรื่อยเปื่อย

ภาวะลื่นไหลคือสภาวะที่มีสมาธิและดื่มด่ำไปกับกิจกรรมที่กำลังทำและสถานการณ์ที่กำลังเผชิญโดยสมบูรณ์ คุณจะจดจ่อกับกิจกรรมนั้นมากจนสิ่งอื่นหมดความสำคัญ คุณจะรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจและมีสมาธิอย่างลึกซึ้ง คุณอาจเข้าถึงภาวะนี้ได้จากการวาดภาพ หรือเดินเล่น จงมีวินัยในการทำกิจกรรมนั้น อย่างต่ำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์และให้เป็นจุดเริ่มต้นสู่สภาพจิตใจที่สงบกว่าเดิม

ร่างกายและจิตใจของเราเชื่อมต่อกัน หากรู้สึกว่าค่ำคืนนั้นหนักหนาสาหัส ก็ตัดสินใจว่าสัปดาห์นี้คุณจะยกเลิกกำหนดการไหน ต้องทำอย่างไรจะเลิกคิดจนหัวหมุน แล้วหันไปทำความเข้าใจร่างกายของตนเอง

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

No responses yet