#priwreadbooks Productivity Hacks สูตรโกงของคนเก่งงาน
#WeLearn Emily Price เขียน พรเลิศ อิฐฐ์ แปล
สูตรโกงประสิทธิภาพที่เรียบง่าย จำนวน 541 ข้อ ใน 7 บทใหญ่ ซึ่งอ่านเพลินๆ แล้วจบเล่มไวมาก บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่ทำอยู่แล้ว (อยู่ๆ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองเฉย) บางเรื่องก็น่าทำเพิ่ม บางเรื่องก็อาจจะเอามาใช้ไม่ได้จริงเนื่องจากผู้เขียนน่าจะอยู่ที่ USA เพราะฉะนั้นบทที่ 6 ส่วนมากก็จะเจอ App ที่อาจจะไม่ได้เอามาใช้จริงในตอนนี้
แต่ละข้อสามารถอ่านจบได้ภายในไม่ถึงนาที ในหนึ่งหน้าจะมี Headline สรุปมาให้ว่าต้องทำอะไร อ่านแค่บรรทัดเดียวก็เข้าใจ แต่ถ้าอ่านเพลินก็อ่านไปจนจบนั่นแหละ ลองยกตัวอย่างเนื้อหาของแต่ละบทมาคร่าวๆ
บทที่ 1 : เตรียมพร้อมที่จะประสบความสำเร็จ
- ทำงานที่บ้าน แต่ไม่มีสมาธิ สิ่งที่ต้องทำคือ อาบน้ำ
- วางแผนของสัปดาห์หน้าในคืนวันอาทิตย์
- วางแผนของพรุ่งนี้ตอนคืนก่อนนอน
- วางนาฬิกาปลุกให้ห่างจากเตียง
- เริ่มต้นวันด้วยการดื่มน้ำเปล่า การออกกำลังกายและแสงแดด ที่จะทำให้เริ่มต้นวันได้อย่างสดชื่น
- สร้าง “ห่วงโซ่” แห่งความสม่ำเสมอ เน้นทำต่อเนื่อง ทำทุกวัน และ อย่าทำให้ห่วงโซ่ขาด
- เขียนสิ่งที่ตื่นมาจะทำไว้ก่อนนอน
- ย่อยรายการสิ่งที่ต้องทำให้เล็กและง่าย
- ตั้งเป้าหมาย 90 วัน แทน 1 ปี
- กินอาหารดีๆ
- กำหนด Theme ให้แต่ละวัน เช่น วันจันทร์เป็นวันหาภารกิจใหม่ๆ อังคารเป็นวันประชุม
- วางของสำคัญ ไว้กับของที่เราจะไม่ลืม เช่น กุญแจกรถ กระเป๋าตังค์
- ทำ list ซื้อของเข้าบ้านให้คนทั้งบ้านรู้ เผื่อใครแวะไปซื้อพอดี
- ลองพยายามเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนที่มีมุมมองแตกต่างจากคุณ
- ทำให้แน่ใจว่าสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายหลัก
- จัดตู้เสื้อผ้าตามโอกาสการใช้งาน
- อย่าทำหลายอย่างพร้อมกัน
- อะไรที่ทำได้เสร็จใน 2 นาทีให้ทำเลย ไม่ต้องรอ
- ถามตัวเองและคนอื่นเป็นประจำว่า ฉันจะทำงานนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร
บทที่ 2 : ทำงานให้มีประสิทธิภาพ
- ทำงานแต่เช้า ตอนที่ยังไม่มีใครมากวน (ถ้าเป็นคนชอบตื่นเช้าน่ะนะ)
- ซ่อนโทรศัพท์มือถือระหว่างทำงาน จะได้ไม่เผลอเล่น Social Media
- ถ้ามีคนอื่นทำแทนเราได้ จงขอให้เขาทำแทน แล้วเราก็ไปหาอย่างอื่นที่มีคุณค่ามากกว่า
- ถามคนที่เก่งกว่าว่าเขาทำงานอย่างไร
- ใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน
- ยอมรับออกมาตรงๆ หากมีเรื่องที่คุณไม่เข้าใจ หรือ ทำไม่เป็น
- ลาพักร้อน อย่าฝืนทำงานต่อเนื่อง
- ใช้ปฏิทินกับทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องงาน
- ทำงานจากที่บ้านบ้าง ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ต้องไปออฟฟิศ
- แค่เพราะคนอื่นทำมาโดยตลอด ไม่ได้แปลว่ามันถูกต้องเสมอไป
- ลุกขึ้นยืน คนจะได้รู้ว่าคุณต้องรีบไปต่อ
- แบ่งเวลาทำงานและเวลาพักออกเป็นช่วงสั้นๆ
- อย่ากินมื้อเที่ยงเยอะ เดี๋ยวง่วง
- กำหนดเวลาทำงานของแต่ละงาน จะได้รู้ว่าอันไหนเสร็จช้ากว่ากำหนด
- กำหนด Deadline หลอกๆ
- กำหนดชั่วโมงสำหรับงานจิปาถะ
บทที่ 3 : ทำงานที่บ้านให้มีประสิทธิภาพ
- จัดเวลาทำงาน-เลิกงาน
- บอกให้คนในครอบครัวรู้ว่าเราทำงานกี่โมงบ้าง
- อาบน้ำก่อนทำงาน
- ออกไปเดินสักรอบก่อนเริ่มทำงานที่บ้าน ร่างกายจะได้ปรับโหมดว่าต้องทำงานแล้ว
- ประกาศเขตหวงห้าม
- ทำงานใกล้หน้าต่างที่มีแสงแดด แต่ไม่มีความวุ่นวาย
- จัดตารางให้กับสิ่งที่ต้องทำก่อน
- ติดอินเทอร์เน็ตดีๆ
- ซื้อเก้าอี้ทำงานดีๆ
- มีโทรศัพท์สำหรับติดต่อเรื่องงานโดยเฉพาะ
- ยืนทำงานบ้าง
- ปิดเสียงโทรศัพท์มือถือตอนทำงาน
- ตุนน้ำและขนมไว้กินระหว่างวัน รวมถึงเตรียมอาหารกลางวันไว้ด้วย
- ใช้พื้นที่ร่วมกับคนอื่นบ้าง
- อย่าปล่อยให้เรื่องเล็กน้อยที่อยู่ในบ้านลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ เช่น น้ำรั่ว เพราะเราจะกังวลกับสิ่งนั้น
- นัดเพื่อนสังสรรค์สัก 1 ชม. หรือออกไปกินข้าวกลางวันร่วมกันบ้าง
- Video Call กับเพื่อนร่วมทีมบ้าง
- กำหนดเวลาเลิกงาน
- จัดตารางทำความสะอาดห้องทำงานที่บ้านเป็นประจำทุกสัปดาห์
- ก่อนเลิกงานให้จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบและเตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้น
บทที่ 4 : เดินทางติดต่อธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
- บินเที่ยวแรก ต่อให้เลทคุณก็เป็นเที่ยวแรก แต่ถ้ามีประชุมเช้า ให้บินวันก่อนหน้า
- โทรหาสายการบินโดยตรงเมื่อเที่ยวบินมีปัญหา
- ใช้กระเป๋าเดินทางที่เด่นสะดุดตา หรือ รูปทรงแปลกประหลาด
- ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ เอาไปตากในห้องน้ำให้ไอน้ำช่วยกำจัดรอยยับ
- พกหูฟังตัดเสียงรบกวน
- สั่งอาหารมังสวิรัติ จะได้กินก่อน
- ชาร์จแบตทุกอย่างให้เต็ม
- เขียนที่อยู่และเบอร์โทรของโรงแรมปลายทางลงกระดาษติดตัวไว้ อาจจะรวมถึงแผนการของตัวเองด้วย
- ใส่ชุดที่ใส่ประจำอยู่แล้ว อย่าใส่ของใหม่
- ปิดโทรศัพท์ ตอนอยู่บนเครื่องบิน จะได้ไม่เปลืองแบต
- ขอให้โรงแรมโทรปลุก จะได้ตื่นแน่ๆ
- ถ่ายรูปใบเสร็จทุกครั้ง
- พกขนมพวก snack bar ติดตัว
- พยายามจัดเวลางานที่เป็น timezone ตัวเอง (ถ้าทำได้)
- เข้านอนเวลาที่เหมาะสม
บทที่ 5 : ประชุมให้มีประสิทธิภาพ
- ทบทวนเหตุผลที่ทำให้คุณเลือกที่จะประชุม
- เลือกประชุมโดยดูจากวัตถุประสงค์
- เช็คว่าทุกคนเข้าประชุมได้ ไม่มีประโยชน์ถ้าประชุมโดยผู้เล่นตัวหลักไม่มา
- คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนจัดการประชุม ทำไมฉันถึงอยากจัดประชุม ผ่านอีเมลได้ไหม เป้าหมายหลังจบประชุมคืออะไร มีใครที่จำเป็นต้องเข้าประชุมบ้าง ฉันควรให้ข้อมูลใดบ้าง ต้องใช้เวลาแค่ไหน ควรนัดตอนไหน
- กำหนดวาระการประชุม
- มี Timer แค่รู้ว่ามีเวลานับอยู่ ก็ทำให้ทุกคนตื่นตัวแล้ว
- ส่งเอกสารที่ต้องอ่านก่อนเข้าประชุม
- เชิญเฉพาะคนที่มีอำนาจตัดสินใจเข้าประชุม
- เปลี่ยนการประชุมแบบ 1:1 เป็นการเดินประชุม
- ก่อนวิจารณ์ ให้พูดว่า “ฉันเข้าใจว่า คุณกำลังจะบอกว่า….”
- อย่าประชุมเพื่อ “ระดมสมอง”
- พูดถึงปัญหา อย่าอ้อมค้อม
- จัดประชุมตอนบ่าย ตอนเช้าเก็บเอาไว้ทำงาน และอย่าเกิน 5 หัวข้อ
- อย่าเชิญประชุมปากเปล่า ให้ส่ง Calendar ด้วย
- ระบุเหตุผลในการเชิญแต่ละคน จะมีแนวโน้มมาตรงเวลามากขึ้น
- อย่าประชุมเกินชั่วโมง และ สรุปประเด็นหลังประชุม ถ้าเกินให้มีเวลาพัก 15–20 นาทีระหว่างการประชุม
- อย่าอยู่ต่อ ถ้าไม่จำเป็น
- ยกเลิกการประชุม ถ้าคุณไม่พร้อม
บทที่ 6 : เครื่องมือและเทคโนโลยี
ที่เคยใช้/ใช้อยู่แล้ว
- Grammarly
- Dropbox, Google Drive
- Streak
- Evernote
- Checker plus (browser)
- IFTTT
- Google Translate
- Trello
- Slack
ที่น่าลองใช้
- RescueTime
- JustRead
- Forest
- Tide
- StayFocusd (browser)
- HazeOver
บทที่ 7 : รักษาสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว
- ตื่นเช้า ก่อนทำงานสัก 2–3 ชั่วโมง
- ถ้าจะเข้าฟิตเนสให้คุ้ม ให้จ้างเทรนเนอร์
- ปรับเวลาเพื่อทำสิ่งต่างๆ ตอนที่คนไม่แน่น
- ปฏิเสธบ้าง
- ยิ้มเยอะๆ
- ประเมินตัวเองทุกเดือนหรือทุกปี
- ตอนทำงาน ถ้าง่วงให้ไปออกกำลังกายแทน
- ทำสิ่งเล็กๆ ทุกๆ วัน เช่น เรียนศัพท์ใหม่ วันละ 5 คำ
- วางแผนว่าจะกินอะไรในสัปดาห์หน้า
- มีน้ำใจกับผู้คน แสดงความซาบซึ้งกับคนที่ช่วยเหลือ
- หาเพื่อนทำกิจกรรมด้วยกัน
- กำหนดวันเก็บกวาดครั้งใหญ่ทุก 3 เดือน
- ลงทุนกับสิ่งที่ช่วยคลายความเครียด
- อาบน้ำก่อนนอน เลิกดูนาฬิกา เลิกกินขนม/อาหารตอนดึก ออกกำลังก่อนเข้านอนห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
- เขียนรายการสิ่งที่ไม่ควรทำ
- เวลาได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานให้ถามตัวเองว่ามันมีความสำคัญต่อชีวิตคุณไหม มันทำให้คุณมีความสุขหรือเปล่า
- งีบ 15 นาที ระหว่างวัน