#priwreadbooks Sapiens เซเปียนส์ ประวัติศาสตร์ฉบับกราฟิก (I: กำเนิดมนุษยชาติ)
#ยิปซี Yuval Noah Harari เขียน ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ แปล
หนังสือภาพการ์ตูนสีสัน ที่ดัดแปลงจากหนังสือ เซเปียนส์ ประวัติย่อมนุษยชาติ ที่เป็นหนังสือเล่มหนาๆ (ซื้อมาแล้ว แต่ยังอ่านไม่จบ) เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของจุดกำเนิดและวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์มนุษย์ หนังสือจะบอกเล่าบทบาทของมนุษย์ที่ค่อยๆ วิวิฒนาการในนิเวศวิทยา ไปจนถึงการผงาดขึ้นมาของจักรวรรดิต่างๆ ผ่านบทสนทนาของ ดร.ยูวัล ตัวละครหลัก กับผองเพื่อนท่านอื่นๆ
สิ่งที่ครองโลกสมัยก่อนไม่ใช่มนุษย์ อาจจะเป็น ไดโนเสาร์ สิงโต หรืออะไรก็ตาม เราเคยเป็นเพียงลิงที่ไม่สำคัญ จนกระทั่งไม่นานมานี้เอง
คนชอบเข้าใจผิดว่า เราวิวัฒนาการมาจากลิง แล้วก็กลายมาเป็นแบบทุกวันนี้เลย แต่ความเป็นจริงคือ หนึ่งแสนปีที่แล้ว เคยมีมนุษย์ถึง 6 สายพันธุ์อาศัยบนโลก เรียกว่า โฮโม (Homo) แบบอื่นๆ แต่ตอนนี้พวกเขาแค่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่หายไปตอน 5 หมื่นปีก่อน ตอนที่ โฮโมเซเปียนส์ (Homo sapiens) บรรพบุรุษเรากำลังเริ่มยิ่งใหญ่ มีทฤษฎีสันนิษฐานว่าเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์กลุ่มอื่นไปต่างๆ นานา (ซึ่งก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ กันแน่)
เซเปียนส์มีแนวโน้มตามสัญชาตญาณจะแบ่งมนุษยชาติออกเป็น 2 พวกคือ ‘พวกเรา’ กับ ‘พวกเขา’ การแบ่งแบบนี้ทำให้เราทำลายหลายๆ อย่าง สัตว์หายสาบสูญ แม้แต่มนุษย์ด้วยกันเองแต่คนละ species ก็อาจจะหายไปเพราะเรา
หากสมองเราดีขึ้น เราก็จำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้น ถ้าหากเราหาอาหารได้เท่าเดิม ก็ต้องแลกมากับการที่กล้ามเนื้ออ่อนแอลง แขนที่หดสั้นลง ซึ่งเราใช้เวลากว่าสองล้านปี กว่าจะมาถึงจุดๆ นี้
แม้ว่าร่างกายเราจะอ่อนแอลง แต่ก็แลกมากับการที่เราฉลาดขึ้น การฉลาดขึ้นก็มากับ ปวดหลังและเมื่อยคอ เพราะโครงสร้างของเราเอง การที่เรายืนตัวตรงสองขาได้และสมองที่ใหญ่ รวมถึงผู้หญิงสะโพกแคบลง แต่ทารกหัวใหญ่ขึ้น ทำให้มนุษย์เริ่มคลอดก่อนกำหนด เมื่อเทียบกับลูกสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ออกมาไม่นานก็เดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ทารกของมนุษย์เราอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดตอนคลอดออกมา แต่นั่นก็ทำให้พวกเรารวมกลุ่มสร้างสังคม ช่วยกันดูแลลูก และเพราะว่าเรารวมกลุ่มกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ เราเลยไม่ต้องมีทักษะทุกอย่าง ก็อยู่รอดได้
ลิงที่กินของดิบๆ อาจจะใช้เวลากินอาหารถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน และใช้เวลาย่อยมากกว่านั้น หลังจากที่เราเรียนรู้การใช้ไฟ เราก็ไม่จำเป็นต้องมีลำไส้ยาวๆ เพื่อย่อยอาหาร และด้วยการใช้ไฟ มนุษย์ที่อ่อนแอเพียงคนเดียวก็สามารถใช้ไฟเผาป่าทั้งผืนได้
มนุษย์เราเป็นใหญ่ได้เพราะการแต่งเรื่อง สังคมทุกวันนี้อยู่ได้เพราะความเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าของเงิน ชาติ ศาสนา สิทธิมนุษย์ชน กฎหมาย บริษัท/นิติบุคคล ที่ไม่มีตัวตนมาเป็นตัวแทนการทำธุรกิจ เพราะมนุษย์เชื่อเรื่องแต่งเรื่องเดียวกัน เราเลยทำงานร่วมกันได้ สัตว์ชนิดอื่นไม่ค่อยยุ่งกับคนแปลกหน้า แต่มนุษย์เราสามารถร่วมกองทัพ กับคนนับแสนเพื่อปกป้องชาติ ทำสงครามกับคนที่ไม่รู้จัก เพื่อประเทศที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง
ร่างกายเรายังถูกออกแบบมาให้ใช้ชีวิตเหมือนนักล่าสัตว์ เก็บของป่า นั่นรวมถึงการ เสพติดน้ำตาล สมองเรายังชอบพลังงาน เพราะกลัวว่าจะอด แต่ในยุคนี้เรากินได้ตลอดเวลา ทำให้เราตายเพราะอ้วนมากกว่าเพราะอดอาหาร
ชีวิตบรรพบุรุษเรา ทำงานล่าสัตว์เก็บของป่า ราวๆ 35–45 ชั่วโมง/สัปดาห์ บ่ายๆ เหนื่อยก็พัก ในขณะที่ยุคนี้ทำงาน 60–80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็มีให้เห็น
หลังจากเราหันมาปลูกพืช ทำเกษตรกรรม แทนการล่าสัตว์ เราก็มีอาหารกินเยอะขึ้นแต่หลากหลายน้อยลง ทำให้เป็นโรคได้ง่าย ถ้าพืชตาย คนก็อดอาหาร การแพร่ระบาดของโรคก็เกิดได้ง่าย เพราะคนอาศัยหนาแน่นขึ้นกว่าสมัยเก็บของป่า
มนุษย์เราขึ้นชื่อเรื่องความชิบหาย ไปที่ไหนสัตว์ใหญ่สูญพันธุ์ที่นั่น เราเป็น species ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ด้านชีววิทยา สัตว์ ไม่รู้จักเรา เห็นผอมแห้งตัวเล็กดูเป็นมิตร แต่มาพร้อมกับเทคนิคการล่าที่สั่งสมมานาน เผลอแป๊บเดียวก็ตายหมด ด้วยความที่สัตว์ใหญ่ ขยายพันธุ์ช้า การฆ่าแมมมอธตัวเดียวในระยะเวลา 2–3 เดือน ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้มันสูญพันธุ์
พอทำเป็นการ์ตูนก็ทำให้อ่านง่ายขึ้น แต่เสียอย่างเดียวคือตัวอักษรบางหน้าเล็กมาก เล็กแบบเล็กเกินไปมาก ต้องเพ่ง (เอ๊ะ หรือฉันแก่แล้ว!)
ขอบคุณพี่นุ่นที่ให้ยืมมาอ่านฮะ