#priwreadbooks The Draker’s Story (1–5)
#satapornbooks กัลฐิดา เขียน
หนังสือชุดนี้เป็นเรื่องที่สองของผู้เขียน (แต่ก็เพิ่งมาอ่านตอนนี้แหละ เรียกว่าซื้อมาอ่านช้าไปหลายสิบปี 55+) ตัวละครที่เกี่ยวเนื่องมาจาก เซวีน่า ก็คือ ฟายด์ โรเซล (หรือ ฟายด์มิเลีย ดี. ฟรานเชสก้า ลูกสาวคนโตของลีโอ เฟมีลนั่นเอง) ตอนที่อธิบายในเล่มท้ายๆ ว่าทำไมฟายด์ต้องมาทำแบบนี้ ในโลกนี้แทนที่จะอยู่เซวีน่า ก็น่าสงสารเหมือนกัน
ข้อเสียของเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องของพล็อตและตัวละครที่คล้ายกับเซวีน่ามาก เป็นแพทเทิร์นเดิม แค่รายละเอียดเล็กน้อยที่ต่างกัน เด็กสาวที่น่าสงสารและโชคร้ายที่สุด แต่ความจริงก็สืบทอดมาจากตระกูลที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ ครอบครัวพ่อแม่ร่ำรวย เปี่ยมอิทธิพลมหาศาล เช่นเดียวกับสหายของเธอ พันธสัญญา กงล้อแห่งโชคชะตา วงจร คำทำนาย การวางแผนของคนๆ เดียวที่สามารถชี้ชะตาลิขิตให้คนเดินไปตามทางที่ตนต้องการ การใช้พลัง พระเอกนิสัยเงียบขรึม พูดน้อย ผมดำ ตาดำและแต่งดำทั้งตัว เป็นไม้เบื่อไม้เมากับนางเอกในช่วงแรกๆ ความตลกของเรื่องนี้คือ พระเอกกับนางเอกอายุห่างกันเกินสองพันปี เรียกว่าช่องว่างระหว่างวัยที่แท้ 55+ แล้วอีกเรื่องก็คือบางปมไม่ได้ถูกคลี่คลาย และรู้สึกว่าตัวละครบางตัวก็ถูกลืมไปเลย แต่โดยรวมก็คือสนุกดี
หลังจากที่ปีนี้ (2021) ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา มีความเบื่อๆ ไม่อยากอ่านหนังสือเท่าไหร่ แต่พอซื้อ Box Set นี้มา ทำให้ความรู้สึกชอบอ่านหนังสือกลับมา มันยังคงมีอยู่ในตัวเสมอ สามารถขุดพลังในการอ่านอย่างต่อเนื่อง 5 เล่ม ใช้เวลาประมาณ 3 วัน (รวมกิน/นอน/ทำกิจวัตรทั่วไป) เลยทำให้ระลึกได้ว่า น่าจะแค่ไม่ได้อยากอ่านหนังสือมีสาระเฉยๆ นั่นแหละ
#1 พระราชวังแห่งอำนาจ
แอมเบอรี แคลร์ เด็กสาวที่ทำงานเป็น เดรโกเลต หรือผู้นำสารในความมืดที่อายุน้อยที่สุด เพื่อเงินรักษาแม่ซึ่งป่วยหนักด้วยโรคร้าย วันหนึ่งเธอก็ได้รับจดหมายสีทองเชิญไปเป็น ‘เลตินอร์ตอล’ ที่เธอแสนเกลียด ต้องเข้าไปอยู่ในโรงเรียนกุลสตรีเดอลาเรีย ซึ่งเป็นโรงเรียนกุลสตรีอันดับหนึ่งของลาโคน่า และได้พบกับไข่มังกรซึ่งฟักลูกมังกรออกมา
เปรี๊ยะ…เปรี๊ยะ…เปรี๊ยะ…ผลัวะ! อะไรบางอย่างกำลังขยับตัวและถีบเปลือกไข่ออกมา อะไรบางอย่างที่มีขนสั้นสีทองอร่าม มีสี่ขา และเล็บของมันเปล่งประกายอย่างกับเพชรน้ำดี และเมื่อเปลือกไข่ชิ้นบนสุดถูกสลัดออกโดยหัวของเจ้าตัวปริศนา “แอมมี่” ก็เห็นปีกสีทองขนาดเล็กจิ๋วกระพือ…นี่มัน…
เจ้าสัตว์ตัวน้อยยกขาหน้าตีเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มส่วนล่างของมัน แล้วขยับตัวให้พ้นจากเปลือก แต่มันก้าวพ้นออกมาได้ไม่ไกลนักก็เซล้มลงจนก้นจ้ำเบ้า มันยกขาหน้าขึ้นขยี้เปลือกตาด้วยท่าทางงัวเงีย แต่ไม่นานก็เหลือบขึ้นสบตากับแอมมี่ เด็กสาวทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น และกรีดร้องกับตัวเองในใจว่า… ลูกมังกร!!!
แอมมี่ได้ตั้งชื่อมังกรว่า ‘ทินเซล’ โดยไม่รู้ว่าเป็นการพันธนาการอย่างหนึ่งที่เดรกเกอร์จะทำกับมังกรของเขา ทางเดียวจะเอาออกได้คือเธอต้องเดินทางไป ‘เพเชตเต้’ เพื่อให้คาชัทเอาออกให้ตามคำบอกของมังกร เธอจึงหนีออกจากโรงเรียน และก่อนเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง เธอได้เลือกไปหาแม่ที่ป่วยหนักก่อน และได้พบ ดัสค์ ฟอร์เทล เดรกเกอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งถูกส่งตัวมารับตัวเธอไปรายงานตัวเป็นเดรกเกอร์ที่เพเชสเต้ เขากีดกันที่จะให้เธอพบกับแม่ของเธอ ดัสค์พาแอมมี่ไปที่บ้านพัก แต่แพทย์เจ้าของไข้แม่เธอก็มาพบ ทำให้ได้รู้ว่าแม่ป่วยด้วยโรค โดราโกเมจิก ซินโดรม ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการปนเปื้อนเวทมนตร์มังกร หรือที่มนุษย์เรียกว่าคำสาป และทางเดียวที่มองเห็นว่าจะช่วยแม่ได้นั่นคือ ‘น้ำพุแห่งความเป็นตาย’ ซึ่งคนที่จะใช้ได้ต้องเป็นเดรกเกอร์เท่านั้น แอมมี่จึงตกลงที่จะเป็นเดรกเกอร์ เพื่อจะได้นำน้ำพุนี้ไปรักษาแม่ จากนั้นการผจญภัยเพื่อภารกิจตามหาไข่มังกรหัวหน้าเผ่าทั้ง 5 ของเธอกับมังกรน้อยสีทอง ‘ทินเซล’ ก็เริ่มต้นขึ้น
#2 แท่นศิลาแห่งความไม่เอนเอียง
ภารกิจการตามหาไข่มังกรใบแรกกำลังเริ่มต้น ปริศนามากมายกำลังถูกค้นพบ แต่ก่อนหน้าที่แอมมี่จะก้าวออกสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยผืนน้ำ เลตินอร์ตอลคนเก่งจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าสมาคมกุลสตรีแห่งลาโคน่าเสียก่อน แอมมี่จำเป็นต้องทำให้ดีที่สุดในพิธีฉลองน้ำชา แต่ดูเหมือนสมาคมกุลสตรีจะยังไม่อาจวางใจกับเด็กสาวผู้เคยกระทำผิดไปแล้วครั้งหนึ่งอย่างแอมมี่ ดังนั้น เธอจึงต้องตอบรับเงื่อนไขมากมายที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้ยุ่งยากขึ้น
สถานที่ที่เลตินอร์ตอลและถ้วยน้ำชาทั้งสี่แห่งรั้วเดอลาเรีย เบนเข็มไปที่แรกคือ เมอรีน่า เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปวาวีก้า ระหว่างการออกค้นหาในเมืองท่าและคลองแห่งการค้า…ชาเดล ท่านหญิงเกรซและฟายด์ก็ได้พบกับหัวขโมยสาวคนหนึ่ง เด็กสาวคนนั้นกำลังนำพวกเธอเข้าใกล้กับอะไรบางอย่างที่พวกเธอกำลังตามหา
ในระหว่างที่แอมมี่กำลังจะพบไข่ใบแรก เธอก็พบเบาะแสกับไข่ใบที่สอง หรือนี่คือการคำนวณอันชาญฉลาดของหญิงสาวผู้เป็นมังกรในร่างมนุษย์อย่าง ฟอร์เซลล่า แคลร์ เธอคนนั้นต้องการอะไรในการเดินทางครั้งนี้ของแอมมี่ ไม่มีใครรู้ แต่สิ่งที่เธอทำล้วนพุ่งเป้าไปที่การตอกย้ำให้เหล่าพันธมิตรแหงเดรการ์ได้รับรู้ในสิ่งที่เธอเคยรู้สึก
มังกรแห่งผืนน้ำถูกซ่อนและปรากฏตัวออกพร้อมกับคำตอบของสิ่งที่ฟอร์เซลล่าต้องการ แต่เมื่อแอมมี่ทำตามคำตอบนั้น เธอกลับกลายเป็นจำเลยในสิ่งที่เธอต้องก่อ
เมื่อกระทำผิดย่อมต้องโดนตัดสินโทษ
อีเฟร่า หน่วยงานผู้ตัดสินการกระทำผิดของเดรกเกอร์จะไม่ยอมปล่อยให้แอมมี่กระทำผิดแล้วหลุดรอดจากการลงโทษ แท่นศิลาแห่งความไม่เอนเอียงจะต้องไม่ถูกท้าทายจากบุคคลผู้ซึ่งกระทำผิด แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับลืมอะไรบางอย่างไป
#3 ภูเขาแห่งความโกรธเกรี้ยว
ควันสีจางลอยฟุ้งคลุมไปทั่วร่างของอัล เมลกี้ลุกขึ้นอย่างตกใจจนหนังสือร่วงลงพื้น ขณะที่ควันนั่นเปลี่ยนรูปร่างอย่างช้าๆ จนมีลักษณะเหมือนกับ…มังกร!
‘ควันจะกลายเป็นมังกรได้ยังไง!’
มังกรควันหันมาเผชิญหน้ากับเธอ ดวงตากลวงโบ๋ของมันไม่แสดงอารมณ์อะไรเหมือนกับรูปปั้นไร้ชีวิต เมลกี้แทบเข่าอ่อนลงไปกองตอนนี้ แต่เธอก็พยายามเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มควันรูปมังกรนั้น และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ใบหน้ามังกรควันก็ยื่นมาจ่อห่างจากหน้าเธอไม่กี่เซ็นติเมตรแล้ว
“นาย…เป็น…ใคร” เมลกี้ฝืนถามออกไป ใบหน้ามังกรควันตัวนั้นพุ่งเข้ามาหาเธอพร้อมกับเสียงกระซิบซึ่งดังอยู่ในห้วงจิตใต้สำนึกสุดท้ายว่า
‘แฟร์เรล มังกรของคุณ’
#4 น้ำพุแห่งความเป็นตาย
หนึ่งในถ้วยน้ำชาของแอมมี่หายตัวไป ข่าวร้ายถาโถมเข้าหาแอมมี่ทันทีหลังจากงานประลองจบลง ความสุขจากการได้พบกับมังกรตัวใหม่ทั้งสองตัวแทบมลายหายไปสิ้นเมื่อเกิดเรื่องกับ ชาเรช่า เพลเลต ประธานนักเรียนคนเก่งแห่งเดอลาเรีย แอมมี่ออกจากโรงแรมที่พักตรงดิ่งกลับลาโคน่าทันทีที่ทราบเรื่อง แต่การกลับไปช่วยรุ่นพี่คนสำคัญครั้งนี้กลับนำแอมมี่ไปรับรู้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า
มีใครบางคนวางยา เดลลารีน แคลร์ แม่ของแอมมี่ บุคคลซึ่งเป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างของเด็กสาว ยิ่งไปกว่านั้น น้ำยาสีม่วงปริศนานี้ไม่ได้มีแค่แม่แอมมี่เท่านั้นที่กิน แต่ยังมีพ่อของเธอ และพี่ชาช่าด้วย น้ำยานี้มีไว้เพื่ออะไร จุดประสงค์ที่แท้จริงของการสร้างมันขึ้นมาคืออะไร ความเกี่ยวพันระหว่างคนที่กินน้ำยาทั้งหมดคืออะไรกันแน่ แอมมี่ได้แต่ตั้งข้อสันนิษฐาน และหวังว่าสิ่งที่กลัวจะไม่เป็นจริงขึ้นมา
ท่ามกลางปริศนาที่ขมวดปมจนเหมือนจะไม่มีทางแก้ ตัวต่อมากมายที่แอมมี่รับรู้มากำลังปะติดปะต่อกันเป็นภาพความจริงที่อาจทำให้เด็กสาวต้องกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่สิ่งหนึ่งที่แฝงเร้นมากับการค้นหาคำตอบทั้งหมดคือ การปรากฏตัวขึ้นมาของทายาทมังกรหัวหน้าเผ่าที่สี่ที่แอมมี่ต้องตามหา คำถามของแอมมี่กำลังได้รับคำตอบ และคำตอบเหล่านั้นก็กำลังนำทุกคนไปสู่การตัดสินใจครั้งใหม่ของเดรกเกอร์ผู้ใช้เวทมนตร์คนเดียวของโลก
บนผืนน้ำของน้ำพุแห่งความเป็นตาย คำทำนายของ ฟอร์เซลล่า แคลร์ จะถูกตีแผ่ ความเจ็บปวดของแคลร์กำลังได้รับการตอบสนอง เสียงกรีดร้องของแคลร์กำลังจะทำให้ผืนน้ำแห่งชีวิตต้องมอดไหม้
เพราะมนุษย์เป็นพวกลืมง่าย เขาจึงลืมความผิดของตัวเองอยู่เสมอ และทำมันซ้ำๆ ตลอดเวลา เพราะมนุษย์เห็นแก่ตัว และเพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหลงใหล…เราจึงเฝ้ามองมนุษย์ — พาเรนเชสต้า อีคราเฟร่า แฟร์ฟรีเรียสซ่า เรตาเดส กลอสเลส
#5 โบสถ์แห่งความผิดบาป
พลังอุ่นวาบอันแสนคุ้นเคยแทรกซึมเข้าสู่ร่างของดัสค์ จนเจ้าตัวต้องเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าเหนือจุดกึ่งกลางของวงมนตราที่เจิ่งนองไปด้วยเลือดมีไข่มังกรสีดำเคลือบทับไว้ด้วยลวดลายสีทองไว้โดยรอบกำลังลอยตัวผุดขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ
“เวล…คิน” ดัสค์เอ่ยเรียกไข่ที่ปรากฏขึ้น
เปรี๊ยะ!
“เวลคิน”
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! โผละ!
เมื่อเปลือกไข่ชิ้นแรกหลุดออก
ปีกสีดำอันงดงามของมังกรหัวหกน้าเผ่าตัวสุดท้ายก็สยายออกมาตัดกับแสงสีทองที่กำลังอ่อนแสงลง และแสงสีแดงของเลือดที่จัดจ้านเสียจนดัสค์ไม่อยากจะมอง
“เวลคิน”
เปลือกตาสีทองของมังกรสีดำขยับเปิดขึ้นเล็กน้อย
ก่อนจะลืมตาขึ้นสบดวงตาของเดรกเกอร์ของเขา
แล้วเอ่ยว่า “ท่านดัสค์”