#priwreadbooks The midnight library มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน

Parima Spd
Mar 6, 2022

--

#Beat แมตต์ เฮก เขียน วรรธนา วงษ์ฉัตร แปล

มีห้องสมุดอยู่ระหว่างชีวิตกับความตาย และภายในห้องสมุดนั้นมีชั้นวางหนังสือทอดยาวไม่รู้จบ หนังสือทุกเล่มเปิดโอกาสให้เธอลองใช้ชีวิตอีกชีวิตที่เธอสามารถมีได้ เพื่อดูว่าทุกอย่างจะแตกต่างออกไปยังไง หากเลือกใช้ชีวิตแบบอื่น เธอจะทำอะไรที่แตกต่างออกไปไหม หากมีโอกาสแก้ไขความเศร้าเสียใจของเธอ

นอรา ซีด หญิงสาววัย 35 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังเผชิญกับโรคซึมเศร้าและความผิดหวังซ้ำๆ มานานหลายปี ทว่าในตอนเที่ยงคืนหลังจากที่กินยาฆ่าตัวตายไปแล้ว เธอกลับฟื้นขึ้นมาในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นคือห้องสมุดเที่ยงคืน สถานที่ๆ เวลาหยุดนิ่งไว้แค่เที่ยงคืน เธอได้พบกับมิสซิสเอล์ม บรรณารักษ์ห้องสมุดที่เธอสนิทสมัยเรียนมัธยม มิสซิสเอล์มให้นอราดูหนังสือแห่งความเศร้าเสียใจ ซึ่งบันทึกทุกเรื่องราวที่เธอเคยเสียใจไว้ แล้วเสนอให้นอราได้ลองใช้ชีวิตอีกครั้ง ชีวิตที่เป็นไปได้อันไม่จำกัดที่นอราเคยเสียใจที่ไม่ได้เลือก

มิสซิสเอล์มไม่ได้ส่งนอรากลับไปแก้ไขอดีต แต่ส่งเธอไปลองใช้ชีวิตในช่วงเวลาอื่น ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ หรือไม่ทำในสิ่งที่คิดว่าไม่ควรทำ โดยทบทวนชีวิตที่ผ่านมาและดูว่าชีวิตแบบไหนกันแน่ที่เป็นชีวิตที่ดีแท้สำหรับนอรา แต่มีเงื่อนไขว่าหากเส้นทางที่เลือกกลับไปนั้นทำให้เธอผิดหวังอย่างที่สุด นอราจะต้องกลับมาที่ห้องสมุดเที่ยงคืนแห่งนี้ทุกครั้งไป ตัวอย่างชีวิตที่นอราได้กลับไป เช่น ชีวิตหลังแต่งงานกับแฟนที่เธอยกเลิกการแต่งงานไป ชีวิตที่เป็นนักกีฬาโอลิมปิก เป็นนักร้อง เป็นนักสำรวจธารน้ำแข็งขั้วโลก เป็นนักศึกษาปริญญาโท ไปอยู่ที่ออสเตรเลียกับเพื่อนสนิท ได้เป็นแม่คนที่มีลูกสาวตัวน้อยกับชายผู้แสนดีที่เป็นศัลยแพทย์ และอีกหลายอย่างที่เธอเองก็ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะสามารถไปได้ถึงจุดนั้นได้ และแน่นอนว่าทุกชีวิตที่เธอได้กลับไปนั้นล้วนเชื่อมโยงกับหนังสือแห่งความเศร้าเสียใจทั้งสิ้น

ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล ที่เธอกลับมาที่นี่เที่ยวนี้ไม่ใช่เพราะเธออยากตาย แต่เพราะเธออยากมีชีวิตอยู่ ห้องสมุดนี้ไม่ได้ถล่มลงมาเพราะมันอยากฆ่าเธอ มันถล่มเพราะมันจะให้โอกาสเธอกลับไป การตัดสินใจที่เด็ดขาดบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว เธอตัดสินใจว่าเธออยากมีชีวิตอยู่ เอาเลย จงมีชีวิตอยู่ ในขณะที่เธอยังมีโอกาส

ความเสียใจที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้นเป็นความเสียใจของเราจริงๆ หรือ

หากลองคิดย้อนกลับไป อาจจะพบว่าความเสียใจเหล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นความเสียใจของคนอื่นที่เราเอามาแบกรับไว้ มันอาจจะมาจากความคาดหวังหรือความฝันของคนที่เรารัก และเมื่อเราทำมันไม่ได้ เราก็จะเสียใจ

ไม่ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน ความเสียใจก็จะคงอยู่เสมอ ไม่ต่างกับความสุขและความรู้สึกอื่นๆ อยู่ที่ตัวเราซึ่งเป็นเจ้าของชีวิตจะมองเห็นมันหรือไม่

ถ้าจักรวาลคู่ขนานมีจริง สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเราในเวอร์ชันนั้นๆ ก็ย่อมเกิดขึ้นกับตัวเราในเวอร์ชันนี้ได้เช่นกัน เพราะทุกๆ เวอร์ชันต่างก็เป็นกิ่งก้านที่แตกแขนงออกมาจากลำต้นเดียวกัน ลำต้นที่เป็นต้นไม้แห่งชีวิตเรา

มันง่ายมากที่จะคร่ำครวญถึงชีวิตที่เราไม่ได้เป็น
ง่ายมากที่จะภาวนาให้เรามีพรสวรรค์อย่างอื่นนอกเหนือจากที่เรามี
ง่ายมากที่จะตอบตกลงกับข้อเสนอที่แตกต่างออกไปจากที่เราได้รับ
ง่ายมากที่จะภาวนาให้เราทำงานหนัก รักผู้อื่นให้มากขึ้น บริหารการเงินของเราให้ชาญฉลาดมากขึ้น และอื่นๆ ที่ดีกว่านี้

มันไม่ยากที่จะมองเห็นตัวคุณเองผ่านเลนส์ของผู้อื่น และภาวนาให้คุณเป็นตัวคุณในเวอร์ชันละลานตาที่แตกต่างกันไป อย่างที่พวกเขาอยากให้คุณเป็น

มันง่ายที่จะเศร้าเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าเวลาของเราจะหมดลง

เราไม่สามารถไปเยี่ยมทุกที่ พบปะทุกคน หรือทำงานทุกงาน
แต่สิ่งที่เราจะรู้สึกในชีวิตเรานั้นยังคงมีอยู่

เราจำเป็นต้องเป็นแค่คนคนหนึ่งเท่านั้น
เราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้เป็นทุกอย่าง
เพราะเราไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้วในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
เรามีอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากมาย

จงเมตตาต่อคนที่อยู่ในตัวเราของเรา

อย่ามัวแต่เศร้าเสียใจ ว่าทำไมเราถึงเป็นแบบนั้นแบบนี้ไม่ได้

แค่คุณเงยหน้าแล้วมองไปรอบๆ อาจจะเจอมุมมองใหม่ๆ ที่รออยู่อีกมากมาย จงออกไปใช้ชีวิต ไม่มีชีวิตไหนที่จะไม่พบกับความเสียใจ ก้าวต่อไป ฝ่าฟันทุกอย่างด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง

ความจริงที่เป็นจุดเริ่มต้น และเป็นเมล็ดพันธุ์ของทุกสิ่งที่เป็นไปได้ มันเป็นคำสาปในอดีตและเป็นพรอันประเสริฐในปัจจุบัน คำง่ายๆ ที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจและศักยภาพของพหุภพ “ฉันมีชีวิต”

--

--

Parima Spd
Parima Spd

Written by Parima Spd

I enjoy reading and writing. Continue to learn and try new things to improve. Before you die, explore this world.

No responses yet