#priwreadbooks The Power of LESS ทำน้อยให้ได้มาก

#WeLearn Leo Babauta เขียน วิกันดา พินทุวชิราภรณ์ แปล

• ทำงานให้มีคุณค่าและมูลค่ามากกว่าเน้นปริมาณ เช่น ถ้าอ่านหนังสือ ก็ให้อ่านแล้วนำมาใช้ประโยชน์หรือแบ่งปันมากกว่าอ่านได้จำนวนเล่มมากมาย แต่จำไม่ได้หรือไม่ได้เอาเนื้อหามาปฏิบัติเลย
• เครื่องมือทรงพลังที่ช่วยสร้างนิสัยใหม่ คือ “การพิชิตคำท้า” สร้างนิสัยใหม่ภายใน 30 วัน มีขั้นตอนคือ 1. เลือกนิสัยใหม่มา 1 อย่าง 2. เขียนแผนการขึ้นมา ระบุเป้าหมาย ทำเมื่อไร และสิ่งกระตุ้น 3. ประกาศเป้าหมายให้คนอื่นรับรู้ 4. รายงานความคืบหน้ารายวัน 5. ฉลองให้กับนิสัยใหม่ของคุณ
• สิ่งที่สำคัญคือ เลือกเป้าหมายใหญ่ๆ ทีละอย่าง อย่าเยอะ เพราะจะทำให้เราเหนื่อย และความมุ่งมั่นจะลดลง เอาง่ายๆ กับเดือนละเป้าหมาย ปีหนึ่งเราก็สำเร็จไป 12 อย่างแล้ว
• เวลาทำ ให้ทำน้อยๆ เช่น ตั้งเป้าว่าเดือนนี้จะออกกำลังกายทุกวัน เวลาออกกำลังกาย ก็ออกวันละน้อยๆ ก่อน เช่น 10 นาที แบบนี้จะทำให้ทำได้อย่างสม่ำเสมอ
• เวลาเลือกเป้าหมายให้นั่งเขียนเป้าหมายที่อยากทำทั้งหมดก่อน อาจจะสัก 10–20 อย่าง แล้วค่อยเลือกสิ่งที่อยากทำที่สุดมาก่อน แล้วมาย่อยเป้านั้น เป็นงานหรือกิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวัน
• เทคนิคการจัดการอีเมลที่ดี เช่น จำกัดการเช็คอีเมล วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น ปิดการแจ้งเตือน สะสางกล่องข้อความ ทำกล่องโฟลเดอร์แยกอีเมลขาเข้าเพื่อให้จัดการง่ายๆ เขียนให้น้อยลง ไม่เกิน 5 ประโยค อย่าเช็คอีเมลตอนเช้า
• เทคนิคการใช้อินเทอร์เน็ตให้มีประสิทธิภาพ เช่น รู้ตัว โดยใช้โปรแกรมติดตามการใช้เน็ตของเรา มีสติในการใช้งาน รู้เนื้อรู้ตัวว่าต้องทำอะไร จดจ่อกับการทำงานโดยไม่เชื่อมต่อ มีวินัยในตัวเอง อาจจะปิดพวกเเจ้งเตือน notification ที่ทำให้เราอยากเข้าไปดูด้วยจะช่วยได้มาก
• เทคนิคการใช้ชีวิตให้เรียบง่าย เขียนรายการที่สำคัญในตอนเช้า 4–5 อย่าง ทบทวนหน้าที่ที่ต้องทำ แล้ววางแผนให้ดี ทำเฉพาะสิ่งที่สำคัญหรือตามรายการ กำจัดงานอื่น ปฏิเสธงานแทรก เว้นระยะเวลาระหว่างนัดหมายในแต่ละนัด ลดความเร็วเพื่อให้สนุกกับสิ่งที่ทำมากขึ้น ทำทีละอย่าง กำจัดความเครียด หาเวลาว่างๆ พัก อยู่คนเดียวลำพังบ้าง และฝึกอยู่กับปัจจุบัน
• การทำงานให้ช้าลงช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้น แม้ว่านี่อาจฟังดูย้อนแย้ง แต่ถ้าคุณจดจ่อกับงานและโครงการสำคัญอยู่ตลอด คุณจะทำเรื่องสำคัญได้สำเร็จ เลือกทำงานที่คุณรัก งานที่สำคัญ ขอให้แน่ใจว่ามันท้าทายแต่ไม่ยากจนเกินไป หาช่วงเวลาที่เงียบสงบและเหมาะสมที่สุด กำจัดสิ่งที่ทำให้วอกแวก แล้วจดจ่อ สนุกไปกับมัน ฝึกฝนเข้าไว้ เก็บเกี่ยวผลตอบแทน
• แนวคิดดีๆ สำหรับกิจกรรมตอนเช้า เช่น ดื่มชาหรือกาแฟ ดูพระอาทิตย์ขึ้น ออกกำลังกาย อาบน้ำฝักบัว อ่านหนังสือ เล่นโยคะ นั่งสมาธิ เดินชมธรรมชาติ เขียนหนังสือ เขียนบันทึก ทบทวนเป้าหมาย เลือกงานที่สำคัญที่สุด 3 อย่าง ขอบคุณสิ่งดีๆ ในชีวิต
• แนวคิดดีๆ สำหรับกิจกรรมตอนเย็น เช่น ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ทบทวนสิ่งที่เกิดในวันนี้ ทำจิตใจให้สงบก่อนนอน ออกกำลังกาย จดบันทึกหรือเขียนหนังสือ นั่งสมาธิ เป็นต้น
• การจัดโต๊ะทำงาน การจัดพื้นที่ทำงาน โต๊ะทำงานที่เป็นระเบียบจะช่วยให้คุณจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ ให้ความรู้สึกสงบแบบเซ็น กันเวลาไว้ส่วนหนึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งวัน กวาดเอกสารทั้งหมดออกจากโต๊ะและกองรวมกันไว้ เก็บทุกอย่างออกจากโต๊ะ ยกเว้น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ กล่องเก็บเอกสาร และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็น เริ่มจากกองเอกสาร คัดให้เหลือแค่สิ่งสำคัญ เมื่อคุณสะสางพื้นที่ทำงานให้เหลือข้าวของน้อยที่สุดและปราศจากสิ่งที่ทำให้วอกแวกแล้ว ความท้าทายคือการดูแลให้มันคงสภาพเช่นนั้นตลอดไป
• การจัดเอกสาร ลดจำนวนก่อนจัดระเบียบ จัดเอกสารที่เรียบง่ายเรียงตามลำดับตัวอักษรแค่ใช้แฟ้มกระดาษกับป้ายชื่อ จัดเข้าแฟ้มทันที เตรียมอุปกรณ์ไว้ใกล้มือ ลดความจำเป็นในการจัดเก็บเอกสาร เปลี่ยนเป็นออนไลน์ ลดจำนวนเอกสารที่เข้ามา หยุดพิมพ์เอกสารออกมา
• การกินอย่างช้าๆ ช่วยลดน้ำหนัก ได้เพลิดเพลินกับอาหาร ดีต่อระบบย่อยอาหาร ลดความตึงเครียด ต่อต้านอาหารจานด่วนและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ แค่กินคำเล็กลง เคี้ยวให้ช้าลง เพลิดเพลินไปกับอาหารมื้อนั้นให้นานขึ้น แค่เพิ่มเวลาไม่กี่นาทีให้กับอาหารแต่ละมื้อ ก็เห็นผลแล้ว
• การสร้างนิสัยการออกกำลังกาย ต้องทำให้สม่ำเสมอเหมือนตอนที่สร้างนิสัยอื่น เริ่มจากเบาๆ ง่ายๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับในภายหลัง กำหนดตารางออกกำลังกาย ช่วงเช้าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด แต่สำหรับบางคนหลังเลิกงานหรือพักกลางวันก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดี จงเลือกเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองแล้วจัดตารางออกกำลังกายขึ้นมา พยายามออกกำลังให้เป็นประจำอย่าให้ขาด อย่ายอมแพ้ ไม่ถอดใจ ถ้ามีเหตุผลจำเป็นต้องหยุดไปสักวันหรือ 2 วันก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าล้มเลิกก็พอ หาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ใครสักคนให้พูดคุยด้วยระหว่างออกกำลังจะทำให้เวลาผ่านไปเร็วขึ้น คอยรายงานให้คนอื่นรับรู้ สนุกไปกับมัน

วิธีรักษาแรงจูงใจไม่ให้ล้มเลิกกลางคัน

1. รู้จักยับยั้งชั่งใจ อย่าปล่อยให้ตัวเองทำทุกอย่างที่ต้องการ ให้ทำเพียง 50 ถึง 75% ของที่อยากทำเท่านั้น และวางแผนที่จะเพิ่มระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2. ขอแค่เริ่มทำ จากนั้นทุกอย่างก็จะลื่นไหลไปเองโดยธรรมชาติ
3. คอยรายงานผลกับคนกลุ่มนั้นเป็นประจำทุกวัน หรือเป็นระยะ และยึดมั่นอยู่กับมัน การรายงานผลอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณอยากทำให้ออกมาดี
4. กำจัดความคิดเชิงลบแทนที่ด้วยความคิดเชิงบวก กำจัดความคิดที่ว่า นี่มันยากเกินไป และแทนที่ด้วย ฉันทำได้
5. นึกถึงประโยชน์ที่ได้รับ แทนที่จะคิดว่ามันยากแค่ไหนให้หันไปคิดว่าคุณจะได้อะไรจากมันดีกว่า
6. ตื่นเต้นไปกับมันอีกครั้ง คิดถึงความรู้สึกตอนนั้นที่อยากทำขึ้นมา
7. อ่านเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย สร้างแรงบันดาลใจทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมา
8. ค้นหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ พวกคุณไม่จำเป็นต้องเดินทางสู่เป้าหมายเดียวกัน ตราบใดที่ยังคอยกระตุ้นและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ
9. อ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ
10. ต่อยอดจากความสำเร็จของคุณ จงทำให้แต่ละก้าวมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วคุณจะไม่มีวันล้มเหลว
11. ผ่านจุดตกต่ำไปให้ได้ แรงจูงใจจะไม่คงระดับเดิมตลอดเวลา มันมาแล้วก็ไป หมุนเวียนอยู่อย่างนั้น
12. การพยายามประสบความสำเร็จเพียงลำพังเป็นเรื่องยาก การขอความช่วยเหลือเพื่อให้คนอื่นช่วยสนับสนุน ก็ช่วยให้ทำถึงเป้าหมายได้
13. บันทึกความก้าวหน้า สร้างตารางบันทึกผลแบบง่ายๆ หรือบันทึกลงในโปรแกรมออนไลน์ คุณจะได้รับรางวัลอย่างงาม เมื่อย้อนกลับมาดูและมองเห็นว่าตัวเองก้าวมาไกลแค่ไหนแล้ว แล้วมันจะกระตุ้นให้คุณก้าวต่อไปเรื่อยๆ
14. ให้รางวัลกับตัวเอง รางวัลต้องสัมพันธ์กับขนาดของเป้าหมาย ต้องไม่เป็นรางวัลที่บ่อนทำลายเป้าหมาย
15. มุ่งไปสู่เป้าหมายขนาดย่อม บางครั้งเป้าหมายที่ใหญ่หรือเป้าหมายระยะยาวก็อาจหนักหนาสาหัสเกินไป การรักษาแรงจูงใจที่มีต่อเป้าหมายหนึ่งเดียวให้เป็นเวลานานยากเอาการ ทางออกก็คือ ให้แบ่งเป็นเป้าหมายย่อยๆ ไปตลอดเส้นทางสู่ความสำเร็จ
16. หาครูฝึกหรือลงเรียนในชั้นเรียน อย่างน้อยมันก็กระตุ้นให้คุณไปที่นั่นและลงมือทำอะไรสักอย่าง
17. อย่าข้ามไป 2 วันติดกัน
18. นึกภาพวันแห่งความสำเร็จอย่างละเอียด ให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ กุญแจสำคัญก็คือ ทำเช่นนี้ทุกวันอย่างน้อยก็ประมาณวันละ 2–3 นาที เพราะนี่เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้แรงจูงใจคงอยู่ไปอย่างยาวนาน
19. คอยระวังแรงกระตุ้นให้ล้มเลิก และเอาชนะมันให้ได้
20. มองหาความพอใจอีกครั้ง เราควรรู้สึกสนุก พอใจ และรื่นเริงไปกับมันได้ทุกวัน ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่อยากทำ

ขอบคุณห้องสมุด SCK ที่มีให้หยิบมาอ่านหน้าตาเฉย