#priwreadbooks ทักษะที่หายไปในศตวรรษที่ 21 — The Lost Skill
#WeLearn นภดล ร่มโพธิ์ เขียน
ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดในศตวรรษนี้คือ “การเปลี่ยนแปลง” เราจึงพยายามฝึกฝนและเพิ่มพูนทักษะใหม่ๆ มากมาย โดยหวังจะใช้เป็นอาวุธเพื่อต่อสู้กับทุกความเปลี่ยนแปลง แต่นั่นก็ทำให้เรามองข้าม หรือกระทั่งหลงลืมทักษะสำคัญที่สุดของศตวรรษนี้ไปเช่นกัน ทั้งที่มันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพาเราไปได้ไกลที่สุด
นี่เป็นหน้าที่ของคุณ ที่ต้องหามันให้เจอ
หนังสือมีทั้งหมด 33 บท แต่ละบทใช้เวลาอ่านไม่นาน (ถ้ามีเวลาอ่านอย่างตั้งใจจริง สามารถจบเล่มนี้ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) ยกตัวอย่างเนื้อหา เช่น
ค้นหาทักษะที่หายไป
ทักษะในการอ่าน การเขียน การเรียนรู้
6 นิสัยที่ขโมยเวลาของเราไป
- เราเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา
- เราให้ความสำคัญกับงานและเงินมากเกินไป
- เรามักไม่เห็นคุณค่าของเวลา “ถ้าเหลือเวลาแค่ 6 เดือนบนโลกนี้ เราจะทำอะไร”
- เรารู้สึกว่า การที่ตัวเองดู “ยุ่ง” คือสิ่งที่ทำให้ดูดี แม้การว่างหรือยุ่ง จะไม่ได้บอกถึงผลลัพธ์ก็ตาม
- เราไม่ชอบอยู่ว่างๆ คือว่างแล้วเหมือนรู้สึกผิด (จริงๆ มันไม่ได้ผิด)
- เรามักจะรับปากคนอื่นโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน เราต้องปฏิเสธให้เป็น
กฎเลข 3 แห่งการตั้งเป้าหมาย
ให้ตั้งเป้าหมาย 3 ปี 3 เดือน 3 สัปดาห์ และ 3 วัน สิ่งสำคัญมากคือไม่ใช่แค่ตั้งเป้าหมาย แต่เราต้องอัปเดตความก้าวหน้า
วิธีการคือ ทุก 3 วันให้เราอัปเดตความก้าวหน้าของเป้าหมาย 3 วัน พอครบ 3 สัปดาห์ก็ให้อัปเดตความก้าวหน้าของเป้าหมาย 3 สัปดาห์ และทำเช่นเดียวกันกับเป้าหมาย 3 เดือน และ 3 ปี
อย่าฝืนกฎ 3 นาที
คนเรามีแนวโน้มที่จะผลัดวันประกันพรุ่ง และมักลงเอยด้วยการทำอะไรไม่เสร็จสักอย่าง ถ้าสิ่งที่ต้องทำเป็นงานเล็กๆ ให้เราลงมือทำทันที
จงแบ่งปันความล้มเหลว
เราอาจจะรู้สึกเศร้าเพราะเห็นคนอื่นมีชีวิตดี และมองว่าตัวเองมีชีวิตที่แย่กว่าปรากฏการณ์นี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่แต่ละคนคัดสรรเฉพาะสิ่งดีๆ มาโพสต์ลงใน Social Media ถ้าเราเริ่มรู้สึกแย่เวลาเล่น Social Media เยอะๆ ให้บอกกับตัวเองว่า ข้อมูลที่เราได้รับเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีใครมีชีวิตที่เพอร์เฟคตลอดเวลาหรอก เขาแค่ไม่เล่าเรื่องด้านลบเท่านั้นเอง
สิ่งที่ต้องทำ VS สิ่งที่อยากทำ
ความสำเร็จเกิดจาก การทำสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่อยากทำ เราควรทำข้อแรกก่อนแล้วค่อยทำข้อที่ 2 เพราะการมีสิ่งที่ชอบรออยู่ จะสร้างกำลังใจให้เราทำสิ่งที่ต้องทำ
เทคนิคอ่านหนังสือสำหรับคนที่ไม่มีเวลา
- เลือกเล่มที่สนใจจริงๆ ก่อน
- ล็อคเวลาสงบสำหรับการอ่าน เริ่มจากสั้นๆ ก็ได้ เช่น 5–15 นาที
- เตรียมหนังสือไว้ทุกที่ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ในรถ
- อ่านหลายๆ เล่มพร้อมกันก็ได้
- eBook, Audio Book อาจจะเหมาะกับบางคน (แต่ไม่เหมาะกับเราแน่ๆ)
- ฟัง Audiobook ตอนขับรถ หรือออกกำลังกาย
- คบเพื่อนๆ ที่อ่านหนังสือเยอะๆ จะได้สร้างแรงจูงใจในการอ่าน
- อ่านแล้วคิดว่าจะเอาไปใช้ประโยชน์อย่างไร
- ยิ่งยุ่งยิ่งต้องอ่าน อย่ายุ่งจนไม่มีเวลาพัฒนาตัวเอง
- เลือกหนังสือที่จะอ่าน ถ้าลองอ่านแล้วไม่เวิร์คก็เปลี่ยนเล่ม
วิธีเลือกซื้อหนังสือที่แก้อาการอ่านไม่จบ
- เป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องที่เราชอบ
- เป็นหนังสือที่เราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
- เป็นหนังสือติดอันดับ Best Seller
- เป็นหนังสือของนักเขียนที่เราชื่นชอบ
- เป็นหนังสือที่คนที่เราชื่นชอบอ่าน
- เป็นหนังสือที่อ่านง่าย
- เป็นหนังสือปกแข็งหรือหนังสือที่มีตัวอักษรขนาดใหญ่ สำหรับผู้สูงวัย
เทคนิคอ่านให้ไม่ลืม
เน้นสร้าง Output จดโน้ตและส่งต่อ เพื่อกระตุ้น long term memory
ศาสตร์แห่งการทลายกองดอง
“กองดองจะหยุดทันที เมื่อเราถามว่า ตอนนี้หนังสือเล่มนี้ยังมีประโยชน์อยู่ไหม”
- ลดการซื้อหนังสือใหม่
- ไปดูกองหนังสือ แล้วจัดการเล่มที่เราไม่ได้อยากอ่าน
- เลือกหนังสือที่อยากอ่านมากที่สุดหรือเล่มบางที่สุดมาอ่านก่อน
- กำหนดเวลาอ่านให้ชัดเจน
- เชื่อมโยงการอ่านหนังสือเข้ากับกิจกรรมที่เราชอบทำ
- พยายามทำให้การอ่านเป็นเรื่องง่าย
- หาเวลาเฉลี่ยในการอ่าน
- ระหว่างอ่านให้คิดตามว่า เราจะเอาไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
- หาคนอ่านด้วยกัน
การเขียน
สามารถเข้าถึงหัวใจของผู้รับสารได้มากกว่าคำพูด เพราะตอนที่อ่านหนังสือ คนนั้นจะต้องมีความพร้อมในการอ่าน แต่การพูด คนฟังอาจจะยังไม่พร้อมฟังก็ได้ ยิ่งฝึกเขียน ยิ่งดีขึ้น เราจะยิ่งเข้าใจตัวเรา คนอื่นด้วยเช่นกัน
เมื่อนักเขียนตีบตัน
- อ่านหนังสือหรือบทความ
- ออกกำลังกาย
- ฟังพอดแคสต์
- ตอบคำถามที่มีคนถามมา
- ติดตามข่าวสารต่างๆ
- เริ่มเขียน
โลกอนาคตที่ไม่มีใครเรียนจบ
ปัจจุบันเราก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราอยู่ในยุคดิจิตอล เรามีหลักสูตรมากเกินไป
- อาจารย์จะต้องเปลี่ยนบทบาทจาก Instructor ไปเป็น Facilitator
- คณะและหลักสูตรแบบในปัจจุบันจะหายไป
- การเรียนจะกลายเป็นการเรียนตลอดชีวิต คำว่าจบการศึกษาก็อาจไม่มีอีกต่อไปการศึกษาไม่ควรมีวันจบ แต่ควรเป็นสิ่งที่อยู่กับเราไปตลอดชีวิต
- รั้วของมหาวิทยาลัยกับรั้วที่ทำงานอาจจะกลายเป็นรั้วเดียวกัน
สิ่งที่ค้นพบจากการเรียนออนไลน์
- เดดไลน์ช่วยให้เรียนจบ เพราะถ้าไม่มีเดดไลน์เราก็จะปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ
- การอ่านคือหัวใจของการเรียนคอร์สออนไลน์
- การเรียนคอร์สออนไลน์ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
- การเรียนคอร์สออนไลน์ต้องอาศัยวินัยอย่างมาก
- ถ้าอยากได้อะไรจริงๆ เราจะทำได้ทุกอย่างเพื่อคว้ามันมา
เมื่อขาดวินัย เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ อาจหมายถึงเรียนไม่จบ
จงเตรียมตัวให้พร้อมแม้จะมองไม่เห็นโอกาส
การที่เราจะคว้าโอกาสที่คาดไม่ถึงได้ เราต้องเตรียมพร้อมมาก่อนทั้งๆ ที่ยังไม่มีโอกาส ไม่ใช่แค่พร้อมธรรมดา แต่ต้องพร้อมมากๆ ด้วย
ถ้าเราเป็นคนเดียวที่รู้จักผลงานบางอย่างในอดีต ซึ่งตอนนี้มันหายไปจากโลกนี้เสมือนว่าไม่เคยมีมาก่อนเลย จะมีผลงานไหนบ้างที่เราสามารถทำให้สำเร็จได้อีกครั้ง
ใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย
- อย่าประมาท
- ดูแลตัวเองให้ดีขณะป่วย
- คนรอบตัวมีส่วนช่วยเราอย่างมาก
- วางแผนการทำงานให้ดี
- ใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ถ้าเราฝันจะทำอะไรหรืออยากพูดคุยกับใครก็รีบทำ ถึงแม้หลายคนอาจจะคิดว่า เรายังเด็กหรือยังแข็งแรงอยู่ แต่ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน และที่สำคัญไม่มีใครรู้อนาคต
- ความธรรมดาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตอนป่วยทำให้เราคิดได้ว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าตอนเราสบายดีอยู่แล้ว
- ช่วยเหลือผู้ยากไร้กันเถอะ
หาเมล่อน(หรือฟักทอง)ในชีวิตให้เจอ
การจะทำให้เมล่อนซักลูกหวานสมบูรณ์แบบ เราต้องตัดเมล่อนลูกอื่นๆ ในต้นเดียวกันทิ้ง สารอาหารและทุกอย่างที่มีประโยชน์จะได้วิ่งไปที่เมล่อนลูกเดียว
ในชีวิตเรามีหลายอย่างให้ทำ แต่ถ้าไม่เลือกทำหรือโฟกัสสิ่งที่สำคัญจริงๆ เราก็จะไม่เหลือเวลาให้สิ่งที่สำคัญจริงๆ
เมล่อนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จงหาเมล่อนของเราให้เจอ แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การที่มี Covid-19 ทำให้เกิด New Normal ได้หลายเรื่อง
- การ Work From Home จะกลายเป็นสิ่งปกติ
- เรียนออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องปกติ
- อาชีพที่เรียกว่าเป็น Digital nomad จะกลายเป็นสิ่งปกติ
- การเข้มงวดเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขจะกลายเป็นเรื่องปกติ
- การทำธุรกิจออนไลน์ในอุตสาหกรรม จะกลายเป็นเรื่องปกติ
โลกใบนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่ามัวตั้งท่ารอ ลงมือเปลี่ยนแปลงก่อนจะสายเกินไป
เราต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่ เริ่มต้นฝึกทักษะพื้นฐานที่สำคัญให้แน่น ก่อนจะต่อยอดไปสู่ทักษะอื่นๆ อย่ารอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน แล้วจึงค่อยคิดพัฒนาตัวเอง เพราะถ้าถึงตอนนั้นแล้วอาจจะไม่ทันการก็เป็นได้