#priwreadbooks ท่านและข้าวาสนาครองคู่ เล่ม 1–5
#ห้องสมุดดอตคอม Lao Na Bu Dong Ai เขียน
ตงฟางปู้ป้ายแห่งยุคโลกาวินาศ ปรมาจารย์ด้านการปักผ้า ‘หลีฉี่หลัว’ นางเอกมีพลัง ซึ่งถือว่าเป็นพลังที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม คือพลังปักผ้า และการใช้เข็มกำจัดศัตรูเข้าร่วมกับกลุ่มนักสู้แห่งยุค รวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายปกป้องโลกจากการโจมตีของฝูงซอมบี้
นางเอกกำลังหนีซอมบี้ แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น การปะทะกันหนนั้นทำให้ท่านปรมาจารย์กระเด็นทะลุมิติกลับมาในยุคโบราณเสีย
วิญญาณเลยย้อนอดีตมาเข้าร่างหญิงสาวที่ฆ่าตัวตายในวันเข้าหอ (ชื่อเดียวกัน)
ตื่นมาอีกทีในร่างของหลีฉี่หลัว ลูกสาวของอนุบ้านอาลักษณ์หลี ถูกสลับตัวกับพี่สาวให้มาแต่งงานกับฉินจง ลูกชายคนที่สามที่ (เคย) เป็นคนอนาคตไกล แต่เพราะป่วยอนาคตเลยวูบ รวมถึงบ้านฉินที่เคยรวย แต่ตอนนี้แร้นแค้นยิ่งนัก เรื่องมันก็เริ่มจากตรงนี้
ในโลกใบนี้ หลีฉี่หลัวรับบท ‘นางแบก’ ต้องแบกมันสิ้นทุกสิ่งอัน เธอกลายเป็นน้องสาวผู้รันทดที่ต้องออกเรือนแทนพี่สาว ได้แต่งกับสามีรูปหล่อแต่เจ็บป่วยไม่เลิก
แล้วบ้านเขามีอะไรบ้างน่ะเหรอ? มีแม่ผัวผู้เกรียงไกรเป็นหนึ่งในใต้หล้า ถนัดปราบชาวบ้านด้วยปาก มีพ่อผัวใสซื่อที่เกิดมาเพื่อให้สังคมเอาเปรียบ มีญาติมะรุมมะตุ้มเหมือนฝูงเปรต คิดว่ายุคโลกาวินาศหาของกินยากแล้ว มาที่นี่ก็ยังต้องสวมบทผีอดอยากอยู่อีกเหรอ ไม่ได้การ เข็มปักผ้าอาจใช้สู้กับซอมบี้ได้ไม่ดีนัก แต่มันเจ๋งที่สุดถ้าใช้สู้กับความยากจน ภารกิจผลักดันสามีขี้โรคให้ขึ้นเป็นจอหงวนจึงตามมา
ตระกูลพระเอกเป็นตระกูลที่เคยร่ำรวยมีหน้ามีตาในเมือง แต่ต่อมาตกอับกลายเป็นตระกูลยากจน แถมพระเอกยังป่วยหนักร่างกายอ่อนแอ ทำให้แม่เลี้ยงนางเอกไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งเข้าบ้านพระเอกไปลำบากเลยสลับตัวลูกอนุภรรยามาแต่งแทน หวยก็มาตกที่นางเอกจ้า ตื่นขึ้นมาก็มีเจ้าบ่าวเลย
นางเอกตื่นมาก็สวาปามทุกอย่างบนโต๊ะเลย ตายตอนยังไม่อิ่มท้องก็งี้
ชีวิตจนๆ นางเอกอยากกินเนื้อ ก็ต้องหาเลี้ยงชีพ สกิลการเย็บผ้าที่ไร้ประโยชน์ช่วงซอมบี้บุก ก็เอามาใช้ได้ในเวลานี้ รวมถึงพลอตผัวป่วยแต่ฉลาดเป็นกรดอีก ต้องผลักดันให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน
ใดๆ ก็ตาม ความเพลินคือนิสัยนางเอกที่ฉอเลาะเก่งง เอาอกเอาใจเก่ง เป็นมิตร แล้วก็ฉลาดพูด
ส่วนพระเอก คืออ่านไปก็รู้ว่า พี่เค้าไม่เบา จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ทุกคนเข้าใจว่าฉินจงสุขุม มีความคิดอ่าน ฉลาดเฉลียวอนาคตไกล ใต้หน้ากากคนเถรตรงนั้น คือจิตใจที่มากไปด้วยแผนการ ตั้งแต่หาทางไม่ให้หลานไปออเซาะนางเอกเพราะหวง ไปจนหาทางให้นางเอกเปิดปากขอขยายระยะเวลาสัญญา ความขี้อวดแบบนิ่งๆ ขรึมๆ
ตัวประกอบอื่นๆ ก็สนุกดี บ้านพระเอกก็มีคนเยอะ รุงรัง
เรื่องนี้มีพ่อผัวใสซื่อที่เกิดมาเพื่อให้สังคมเอาเปรียบ มีญาติมะรุมมะตุ้มเหมือนฝูงเปรต รักจังเลย ญาติโกโหติกา ครอบครัวไม่มีจะกินละ แต่ยังจะเอาเงินให้คนเค้า มีอะไรแบ่งให้หมด ช่วยดูเมียลูกหลานด้วย ผอมไส้แห้งหมดแล้ว
สะใภ้ใหญ่มีระเบียบแต่คิดเล็กคิดน้อย สะใภ้รองขี้เกียจ แต่มองคนเป็น มองคนเก่ง นางเลือกแสดงออกเป็นคนโง่ๆ ทั้งที่จริงๆ ฉลาด แต่กลัวเก่งแล้วโดนใช้เยอะ ขอเป็นคนโง่ที่สบายดีกว่า
ทุกตัวละครในครอบครัว ซึมซับให้เราจำได้ นิสัยไม่เพอร์เฟ็ค มีปากเสีย มีน้อยใจ บทสนทนาเป็นธรรมชาติไหลลื่น
ความรักพระเอกนางเอกไม่ซับซ้อน รู้ตัวกันเร็ว เข้าใจ เคลียร์ความรู้สึกกันไว ชัดเจนดี
ทำให้รู้ว่า พระเอกเกือบตายเพราะโดนคนลอบฆ่าโดนผลักตกน้ำเย็นจัด เกือบตาย หลังจากนั้นร่างกายก็อ่อนแอตลอดมา อยู่ในครอบครัวยากจน พระเอกเลยต้องหยุดเรียน มีพ่อที่เลอะเลือน เอาเงิน อาหารในครอบครัวไปจุนเจือญาติพี่น้องหมด เพราะอยากให้ตระกูลกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เลยคิดไปว่าญาติพี่น้องเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่จริงแท้แล้วกลับโดนเอาเปรียบ
นางเอกกลับมาก็เห็นพระเอกหล่อ แถมกลับมายุคอดีต ทุกอย่างต้องพึ่งผู้ชายเลยตกลงอยู่กับพระเอกต่อไป นางเอกก็มีสกิลปากหวาน อยู่เป็น ชอบปักผ้า ชอบทำอาหาร เลยส่งเสริมครอบครัวพระเอกจนกลับมามีกินมีใช้ นางเอกตั้งใจเก็บเงินบำรุงร่างกายพระเอก เพื่อให้พระเอกกลับมาเรียนต่อ หาเงินส่งเสียให้ พระเอกก็กลับไปเรียน เป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะ
เล่ม 2–3 เป็นช่วงของการเริ่มตั้งตัวของตระกูลพระเอก โดยนางเอกเป็นผู้ริเริ่ม คนในครอบครัวดัดสันดานพ่อให้รู้ว่าจริงๆ แล้วครอบครัวตัวเองลำบากเพียงใด ยังจะไปจุนเจือคนอื่นที่ไม่ได้มองเราเป็นครอบครัวอีก
ฉินจง ความชอบอวดเมียคือ ยืนหนึ่ง ถ้าทำได้คงทำป้ายติดหน้าบ้านว่า เมียข้าดีที่สุดในโลก หวงเมีย หลงเมีย อวดเมีย เมียทำข้าวกลางวันมาให้กินก็ขออวด เมียตัดชุดใหม่ให้ก็อวด คำพูดติดปากคือ “ฉี่หลัวดีที่สุด”
ฉินจงเข้าสู่เส้นทางของการสอบ (ระดับเมือง มณฑล ใดๆ ว่าไป สอบเยอะ สอบยาก) เป็นบันไดสู่ความสำเร็จในอนาคต แต่ฉินจงดูเหมือนจะไม่ค่อยให้ความสำคัญและใจจดใจจ่อกับผลสอบมากเท่าการได้เข้าหอ! ดูหมกมุ่นจนน่าสงสาร
เล่ม 3 มีลุ้น ว่าจะทำอย่างไรกับดวงวิญญาณที่แอบแฝงอยู่ในตัวหลีฉี่หลัว ตอนแรกยังนึกว่าจะต้องเป็นประเด็นใหญ่ แต่ฉินจงก็มีการป้องกันไว้เป็นอย่างดี แถมยังฉลาดทันคน เรื่องราวเลยจบลงอย่างรวดเร็ว (แต่จบจริงไหมอันนี้ไม่แน่ใจ)
นางเอกของเราฮอตมากขึ้นเรื่อยๆ ใครเห็นใครรักใครเห็นใครหลง ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกัน
ระหว่างที่ฉินจงเข้าสู่เส้นทางการเป็นขุนนาง ครอบครัวของพี่ชายพี่สะใภ้ทั้งสองคนก็ได้เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง นอกจากขายพะโล้แล้วก็ขายหม้อไฟด้วย ซึ่งก็ได้สูตรจากฉี่หลัวนั่นแหละ
ฉินจงซื้อคน (ซื้อทาส) มาเป็นผู้ติดตามของบันฑิตฉินจง เพื่อให้ฉี่หลัวสามารถเปิดกิจการตัดเย็บปักเสื้อผ้าสตรี เน้นขายของแพง มีคุณภาพ จำนวนไม่มาก เน้นลูกค้าระดับสูง จ้างคนมาตัดผ้าหลายสิบคน แล้วให้เด็กที่ซื้อตัวมานี่แหละเป็นคนดูแลร้าน
พอเล่ม 4 ฐานะเริ่มดี เน้นการสอบแข่งขันของพระเอกเป็นหลัก การสอบระดับมณฑลเริ่มมีการวางพนัน ด้วยความที่นางเอกหูดีได้ยินคนหยามพระเอก ก็เลยวางเดิมพันกับพระเอกเต็มที่ด้วยอัตรา 1:7 แล้วพระเอกของนางก็ดันได้ที่หนึ่งขึ้นมาจริง จาก 600 ตำลึง กลายเป็น 4200 ตำลึงเหนาะๆ
เริ่มเห็นความห่างเหินกันของ ป๋อจวิน สามี ของ เย่เอ๋อร์ ที่เป็นพี่สาวคนละแม่ เนื่องจากพี่สาวทนเห็นสามีตัวเองเก่งสู้กับสามีของน้องสาวไม่ได้ (ก็คือคนที่นางไม่ยอมแต่งงานด้วย) พอมายุ่งกับตัวเองมากๆ นางเอกก็เลยเปิดโปงให้ ป๋อจวิน รู้ซะเลยว่า จริงๆ แล้วคนที่ต้องแต่งกับ ฉินจง คือพี่สาวตัวเอง แต่พี่สาวตัวเองไม่ยอมแต่ง เพราะตอนนั้น ตระกูลฉินก็คือยากจน แถมฉินจงก็ดูจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ แต่พี่สาวก็ยังคงหาเหตุผลอื่นมาสู้กลับ แต่จนแล้วจนรอด ทั้งสองก็ห่างกันไปเรื่อยๆ ด้วยคำพูดบางคำที่พระเอกตัวแสบทิ้งไว้ให้ แถมตอนเย่เอ๋อร์คลอด แม่ของสามีก็มาเอาลูกไปเลี้ยงเองอีก เพราะไม่ชอบที่ เย๋เอ๋อร์ ไม่ดูแลตัวเองให้ดี ส่งผลกระทบกับลูกที่ออกมาตัวเล็กจิ๋ว
หลังจากที่พระเอกสอบรอบนี้จบ นางเอกก็อายุถึง 18 พอดี แต่ด้วยความที่นางเอกใช้พลังต่อสู้ปกป้องพระเอก กับ เจ้าหญิงอีกคน (ที่เจอกันบนเรือ) จนหมดแรง หมดสติ ทำให้ วิญญาณเจ้าของร่างเดิมกลับเข้ามาได้ แต่ทันทีที่นางเอกลืมตา พระเอกก็ดูเหมือนจะรู้ได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่ ฉี่หลัวของตน หาทางหลบเลี่ยงตลอดที่เดินทางกลับ (บนเรือ) พอมาถึงเมืองที่อยู่อาศัย ก็รีบพาไปหา อาจารย์ท่านหนึ่ง ที่ไปขอเอากำไลลูกประคำมาให้ฉี่หลัวใส่มือนั่นแหละ พูดคุยกันสักพัก อาจารย์สวดแป๊บๆ ฉี่หลัวของตนก็กลับมา แต่วิญญาณอีกร่างก็ยังไม่ได้หายไป จนกระทั่งตกลงกันได้ว่า วิญญาณที่ละทิ้งชีวิตตัวเอง (กินยาฆ่าตัวตายไปวันที่แต่งงาน) จะเคลียร์ใจ ไปพูดความในใจกับคนที่บ้าน ว่าทำไมนางถึงได้โดนกดขี่มาตลอด พ่อก็ไม่รัก แม่เลี้ยงก็ทำร้าย พอทำภารกิจเสร็จสิ้น นางก็ยอมจากร่างนี้ไปจริงๆ
หลังจากนั้น พระเอกนางเอกได้เข้าหอจริงจัง สมกับความอดอยากที่รอมานานหลายปี พระเอกจัดเต็มไม่พักอยู่สองเดือน จนนางเอกก็ตั้งท้องจนได้ ความประหลาดก็คือ พระเอกแพ้ท้องหนักกว่านางเอกมาก ทำตัวเหมือนเป็นคนท้องเอง และแล้วก็ได้คลอดแฝดสามออกมา เป็น หญิงสองคนและชายหนึ่งคน
เป็นเรื่องราวของการเลี้ยงลูกทารกสามคน เล่าว่าแต่ละคนมีลักษณะนิสัยประมาณไหน จากการรอกินนม และแล้ว พระเอกก็ต้องไปสอบใหญ่ต่อที่ตัวเมือง พระเอกอยากให้นางเอกและลูกไปด้วย ก็เลยไปซื้อคนมา ครั้งนี้ได้มาสี่คน สูงวัยหนึ่งคน (มีประสบการณ์) ที่เหลือก็เป็นสาวๆ ที่เอามาช่วยเลี้ยงดู แล้วก็นั่งเรือกันไปตัวเมือง เช่าบ้านพักแบบจริงจัง ระหว่างใช้ชีวิตที่ตัวเมืองก็เจอกับแก๊งคุณชายสูงวัยขี่ม้ากลางถนนไล่เหยียบชาวบ้าน นางเอกและลูกสาวคนโตพร้อมกับพี่เลี้ยงอีกสองเกือบโดนเหยียบตาย นางก็เลยซัดเข็มใส่ ร่วงกันเป็นแถวๆ แถมโดนม้าเหยียบอีก
พระเอกได้เข้าสอบ และก็ได้พบคุณหนูเอาแต่ใจพยายามจะเอาพระเอกไปเป็นของตน (ตอนแรกมาบังคับให้นางเอกที่ท้องโตเย็บชุดให้ แต่พระเอกไปจัดการพูดคุยกับทางพ่อของคุณหนูนี่ก่อน นางเอกเลยไม่ต้องเย็บ)
เล่ม 5 ได้เข้าสู่เมืองหลวง 70% เป็นเรื่องของการเลี้ยงลูกทั้งสามคน นิสัยใจคอของเด็กๆ รวมถึงบทบาทของพ่อแม่ พระเอกใช้ชีวิตในระบบขุนนาง นางเอกเปิดร้านเสื้อผ้าในเมืองหลวงโดยพาฉินจิ้นมาเป็นผู้จัดการร้านด้วย ส่วนร้านที่เมืองเกิดที่เป็นสาขาแรกก็ให้น้องเขย (สามีน้องเล็กของฝั่งบ้านพระเอก) มาเป็นผู้จัดการร้านแทน
สองคนสามีภรรยา ใช้เล่ห์เหลี่ยมช่วยกันล้างแค้นตระกูลจวง พระเอกพยายามสร้างความโดดเด่นให้ฮ่องเต้จำได้ ส่วนนางเอกก็ได้รับโอกาสจากฮองเฮาในการเย็กปักฉลองพระองค์
ทั้งสองเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองหลวง ตั้งรากฐาน มีศัตรูเพิ่มเข้ามาแต่ก็ไม่ได้มีความร้ายกาจอะไร เพราะทั้งเรื่อง พระนางร้ายกาจที่สุดแล้ว วางแผนรอบจัด กำจัดศัตรู นางเอกก็บู้ได้
แล้วครอบครัวพี่ใหญ่ พี่รอง พ่อแม่ของพระเอก ก็ย้ายที่อยู่ ที่ทำกิน มาที่เมืองหลวงด้วย หลังจากที่ครอบครัวน้องสามมาก่อนระยะหน่ึง
พระเอกดำเนินชีวิตเป็นขุนนาง ล้างแค้นตระกูลที่เป็นศัตรู จัดการคนที่เคยคิดจะฆ่าพระเอกให้ตกแม่น้ำที่เย็นจัด ตลอด 5 เล่ม พระเอกหลงนางเอกมาก รักเดียวตลอดไป ฉากปล่อยโคมทั่วเมืองคือเวอร์มาก
ตอนท้ายก็คือจบที่พระเอกนางเอกอายุประมาณสามสิบกว่า พระเอกกลายเป็นเสนาบดี เป็นคนสนิทของฮ่องเต้ นางเอกหลังจากได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งเพิ่มจากฮ่องเต้ตอนที่เอาฉลองพระองค์ไปถวาย ร้านอวิ๋นฉือก็ขยายใหญ่ หลายสาขา ทุกหัวมุมเมือง เปิดรับหญิงสาวมาทำงานเพิ่มขึ้น สั่งสอนความรู้แบบไม่หวงวิชา
ส่วนลูกๆ ก็อายุ 15 ปี ลูกสาวคนโตเป็นสายปักผ้า ลูกสาวคนกลางได้พละกำลังของแม่เข้ากองทัพ ส่วนลูกชายคนสุดท้ายได้ความเก่งกาจและเจ้าเล่ห์จากพ่อไปเต็มๆ ทำตัวเหมือนไม่ฉลาดเท่าที่สอบไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ก็ผ่านทุกรอบแบบรั้งท้ายด้วยอายุเพียง 15 ปี (จริงๆ ก็คือวางแผนกับพ่อมาตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้ตระกูลฉินดูอันตรายเกินไป แล้วจะเป็นภัยกับตัว)
ช่วงที่ได้กลับไปเคารพบรรพบุรุษ ได้เห็นชีวิต เย่เอ๋อร์ พี่สาวคนละแม่ของนางเอก ที่สุดท้ายก็หย่าจาก ป๋อจวิน (ที่รับอนุ) ออกมาทำการค้าขายร้านเครื่องเขียนเอง ยอมปล่อยวางสิ่งที่แบกไว้มานาน และดูมีความสุขขึ้น
บทสุดท้ายเป็นการตัดกลับมาโลกปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่ชื่นชมฝีมือผ้าปักของฉี่หลัวที่อยู่มาถึงปัจจุบันในพิพิธภัณฑ์ เล่าให้ฟังถึงความเก่งกาจของครอบครัวนี้ ที่ลูกชายเก่งกว่าพ่อ พ่อที่หน้าตาดี ลูกสาวคนหนึ่งก็เป็นแม่ทัพหญิง
อ่านด้วยกันมานานจนรู้สึกผูกพันกับตัวละคร โดยเฉพาะ พระเอก นางเอก น่ารัก เก่ง ไม่ดราม่า และสู้ชีวิตกันมาก
//ยืม ebook จาก https://elibrary-bkk.hibrary.me/
