#priwreadbooks นี่เราใช้ชีวิตยากเกินไปหรือเปล่านะ
#Springbooks ฮาวัน เขียน ตรองสิริ ทองคำใส แปล
หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับการบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตของคุณฮาวัน ตั้งแต่เกิด เรียน ทำงานประจำ ได้งานวาดภาพเป็นอาชีพเสริม จนลาออกจากงานประจำ จนถึงปัจจุบันว่าเขาได้เรียนรู้อะไรบ้าง พบเจออะไร มุมมองต่อเรื่องต่างๆ ในการทำงาน การใช้ชีวิต เขาลาออกจากงานเฉยๆ โดยไม่ได้วางแผน ไม่ได้รู้ผลการกระทำว่าดีหรือไม่ดี มีแผนสำรองหรือเปล่า แต่เขาก็มีความสุขมากขึ้นกว่าตอนที่ทำงานประจำ
หนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามกับการใช้ชีวิตอันยากลำบาก ชีวิตที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการไต่เต้าขึ้นไปแสวงหาจุดที่เหนือกว่า บางทีมันก็เหนื่อย และเราเองก็ไม่ได้อยากจะใช้ชีวิตให้มันยากแบบนั้น
แล้วทำไมเราถึงทำชีวิตมันให้ยาก ทำไมเราต้องอยากสอบเข้ามหาลัยดีๆ ทำไมเราต้องอยากได้งานที่บริษัทใหญ่ ทำไมเราต้องหาเงินให้ได้มากๆ ทำไมเราต้องหาคู่ครอง สร้างครอบครัวกันช่วงสามสิบกว่า ทำไมโลกจึงเต็มไปด้วยการแข่งขัน ต้องการเพียงแต่คนที่มีความพยายาม
เพราะระบบทุนนิยมที่ถูกสร้างขึ้นมา เราเลยต้องยอมแลกเงินกับเวลา
- เราไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตรีบร้อน หรือพยายามทำอะไรมากเกินไป เดินให้ช้าลงบ้าง เมื่อไรที่เรารู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็แค่หยุดพัก ทำสิ่งที่อยากทำบ้าง อย่าพยายามเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
- การที่เราทำทุกอย่างตามทางที่ถูกขีดไว้ เมื่อทำสำเร็จแล้ว เรากลับไม่มีความสุข หรือสิ่งนั้นมันไม่ใช่ที่เราต้องการจริงๆ
- เราแต่ละคนต่างก็มีอัตราเร็วเป็นของตัวเอง การที่เราสูญเสียความเร็วของตัวเองโดยพยายามไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มีแต่จะทำให้เราเกิดทุกข์
- เคารพตัวเองในแบบที่เรารักและยอมรับในแบบที่เราเป็น เห็นคุณค่าในตนเอง
เป็นการประเมินว่าเรารักตัวเองมากแค่ไหน - จงมีฝันแต่อย่าคาดหวังสูง ให้เราพยายามสานฝันด้วยความเบาสบาย ไม่คาดหวังสูงมาก ไม่คิดว่าต้องสำเร็จอย่างเดียว
- สนุกกับขั้นตอนการทำ
- ชีวิตไม่ได้มีเส้นทางเดียว หากเรามีเป้าหมาย ทุ่มเท ตั้งใจ พยายามแล้วไม่ได้จริงๆ ให้ตัดใจจากทางนี้แล้วไปทำทางอื่นก็ไม่เห็นเป็นอะไร
- การยอมแพ้ที่ฉลาดต้องอาศัยหัวใจกล้าหาญ ความกล้าที่จะท้าทายลองสิ่งใหม่ๆ และกล้ายอมแพ้เมื่อถึงเวลาควรยอม
- สิ่งจำเป็นไม่ใช่มากขึ้นแต่คือน้อยลง ถ้าเรากลุ้มใจน้อยลง พยายามน้อยลง คร่ำครวญเสียดายสิ่งที่ผ่านมาน้อยลง จะช่วยให้พลังของเราไม่เหือดแห้งไป
- การเผชิญภาวะหมดไฟในการทำงาน ทำให้รู้ว่า การไม่ทำอะไร มีความหมายกว่าการทำอะไรมากๆ
- ไม่นำเงินในอนาคตมาใช้ ถ้าปัจจุบันยังไม่สามารถจ่ายคืนได้
- การรู้เท่าทันสภาพไม่สมดุลของตัวเอง คือก้าวแรกในการจัดสมดุลชีวิต คล้ายเกลียวคลื่นที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กางเกร็งตัวแข็ง ไม่ช่วยให้เราจับสมดุลได้ เพื่อพยุงตัวเหนือเกลียวคลื่นได้ เราต้องยืดหยุ่นเตรียมพร้อมขยับตัวไปมา
- Passion หรือภาวะพลุ่งพล่าน ใช่จะฝืนสร้างกันได้ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเราจะขาดไฟต่อให้ขาดไฟแรงบ้าง เราก็ยังทำงานกันได้ดี จริงอยู่ที่อาจมีงานที่เราโปรดปราน แต่ส่วนใหญ่เราต่างทำงานเพื่อเงินกันทั้งนั้น การเสริมสร้าง Passion เป็นเรื่องเครียด ไม่มีก็คือไม่มีสิ
ทั้งๆ ที่อยากมีชีวิตง่ายๆ แต่ทำไมการทำมาหากินช่างซับซ้อนนัก ดีอยู่ที่สังคมทุกวันนี้ให้เราเลือกวิธีหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองได้ แต่บางทีก็น่าคิดถึงช่วงที่มนุษย์ยังใช้ชีวิตแค่ล่าสัตว์กับเก็บของป่าเหมือนกันนะ
- หากทำตามเสียงหัวใจตัวเอง อย่างน้อยเราจะไม่โทษคนอื่น จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ให้เป็นความรับผิดชอบของเรา หากไม่ลองแล้วยอมแพ้เลยคงติดใจกันอีกนาน
- ความก้าวหน้าของดิจิทัลทำให้โลกไร้ข้อจำกัดเรื่องพื้นที่คือเรื่องดี หรือเป็นหายนะใหญ่ที่เร่งให้สังคมยิ่งเหลื่อมล้ำ
- ชีวิตอาจแทบไม่มีสิ่งที่เราเลือกแล้วสมหวังสักเท่าไหร่ ก็ใช่ว่าชีวิตผิดพลาด ชีวิตเราถือว่าปกติอย่างที่สุด ณ เวลาขณะนี้ ที่ไม่เป็นตามเราต้องการ คือสภาพปกติ
- เวลาได้รับ เรามักใส่ใจต่อสิ่งที่ได้จนไม่รู้ว่าเสียสิ่งใดไป เวลาเสีย เราก็สนใจแต่สิ่งที่เสียจนไม่รู้ว่าได้สิ่งใดมา ความยินดีเวลาได้มีมากและไม่เป็นปัญหานัก ปัญหาคือตอนรู้สึกว่าเสียนี่สิ เป็นเรื่องยากจะยอมรับความเศร้าใจเมื่อสูญเสีย แถมยังอาจทำให้เราตัดสินใจทำเรื่องที่ไม่อาจย้อนแก้ไข จะทุเลาความเศร้าลงได้หน่อยไหม หากคิดเสียว่าแม้เป็นทุกข์ แต่เราก็รับบางสิ่งจากการเสียนั้นไป
- ถึงทำงานชิ้นเดียวกัน บางคนอาจรู้สึกยาก บางคนอาจว่าสนุก ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าเกิดจากความแตกต่างทางรสนิยมหรือนิสัยใจคอ แต่อาจเพราะทัศนคติของคนนั้นต่องานที่ทำ “ฉันจะตั้งใจ” คำว่า “ตั้งใจ” ที่แท้แฝงในถึงการอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่เกลียดแล้วทำต่อให้เสร็จ หรือก็คือเราไม่สนุก การตั้งใจใช้ชีวิตถึงเหนื่อย เพราะเป็นชีวิตที่ต้องอดทน ในเมื่อต้องทำงานก็สู้ทำอย่างสนุกจะดีกว่าอย่างตั้งใจไหม แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน
หลายต่อหลายครั้งที่มักมีใครบางคนบอกให้เราตั้งใจทำนู่นทำนี่ให้ดีนะ ถ้าทำแบบนี้ ถ้าพยายามเข้า จะต้องประสบความสำเร็จแน่ๆ
หลายครั้งที่เราเลือกเดินตามเส้นทางที่หลายคนเลือกเดิน เพราะเราเห็นผลลัพธ์ที่ดีของคนอื่นๆ
แต่จะเป็นอย่างไร หากเราได้ออกเดินทางและเลือกใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง ทำสิ่งที่ชอบให้เต็มที่ ขณะเดียวกันก็ผ่อนคลายและไม่ยึดติดจนเกินไป
จะเป็นอย่างไร หากเราได้ลองใช้ชีวิตในเส้นทางที่ต่างออกไป สุดท้ายแล้วไม่มีใครบอกได้หรอกว่าเลือกแบบไหนถึงจะถูก ขนาดบางครั้งที่เราคิดมาอย่างดีแล้ว ชีวิตยังเล่นตลกออกจะบ่อยเลย