#priwreadbooks เดดมอร์นิง บริษัทรับทำความสะอาดเฉพาะด้าน
#BUNSHOU Homare Maekawa เขียน หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว แปล
อาซาอิ วาตารุ ชายหนุ่มวัย 21 ปี ผู้ใช้ชีวิตลอยชายไปวันๆ เขาบังเอิญพบ ซาซากาวะ เคสุเกะ ในร้านเหล้า อ้วกและเลอะใส่ปลายแขนเสื้อสูทของซาซากาวะ เลยรับผิดชอบส่งร้านซักรีดเป็นอย่างดี
วันที่นำสูทไปคืนที่สำนักงานของ ซาซากาวะ ก็จับพลัดจับผลูต้องไปช่วยงานที่ ‘เดดมอร์นิง’ บริษัททำความสะอาดเฉพาะด้านในฐานะพนักงานชั่วคราว ซึ่งบริษัททำความสะอาดเฉพาะด้านของซาซากาวะ คือการรับเก็บกวาดห้องของผู้ที่ตายเพียงลำพังท่ามกลางร่องรอยที่หลงเหลือไว้ของผู้จากไป ไม่ว่าจะ ตายไปเฉยๆ อุบัติเหตุ ฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย รวมไปถึงการรับขนย้ายสิ่งของของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว
การทำงานแบบนี้นั้นนำพามาซึ่งอารมณ์อันหลากหลาย
แน่นอนว่าคนที่ไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน เจอเคสแรกแบบที่ต้องไปเก็บกวาดห้องของศพถูกทิ้งไว้เพียงลำพังนานหลายสัปดาห์ ก็เกิดอาการอ้วกและฉี่ราดเลยทีเดียว
แต่ไม่รู้ติดใจหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ ก็ทำงานต่อมาเรื่อยๆ จนบรรจุเป็นพนักงานประจำ รวมถึงได้ช่วยปลดล็อคความมืดมิดในใจของซาซากาวะอีกด้วย
ความตายคือสิ่งใด และอะไรคือความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิต
พอทำความสะอาดเสร็จ ร่องรอยของคนที่อาศัยในห้องนี้จะหายไป แล้วคนอื่นก็เข้ามาอยู่แทน มันจะเป็นเช่นนี้ไปซ้ำๆ ฉันไม่รู้ว่าคนคนนี้ดำเนินชีวิตมายังไง แต่สามารถจดจำร่องรอยสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้และความตายนี้ได้
คนตายไม่อาจเติบโต ไม่สามารถสร้างเรื่องราวในชีวิตใหม่ๆ ได้ หยุดอยู่กับที่ตลอดไป หากจะมีที่ไหนให้เจอคนตายได้อีก ก็มีแค่อดีตเท่านั้น ตายแล้วก็จบ
พอทำงานแบบนี้ฉันรู้สึกว่าเป็นเรื่องพิเศษมากเวลาได้อวยพรวันเกิดแบบเห็นหน้าค่าตากันทุกปี มันคือเครื่องยืนยันว่าเราใช้ชีวิตมาครบปี
ฉันว่าคำพูดปลอบประโลมตั้งแต่แรกน่ะไม่มีหรอก มีก็แต่คำพูดที่ฟังดูเหมือนปลอบประโลมเท่านั้น แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นคำพูดไม่เข้าท่าแบบไหน รวมถึงคำพูดดุว่าด้วย หากวันหนึ่งเรานึกถึงมันขึ้นมา แล้วหัวใจส่วนใดส่วนหนึ่งอบอุ่น นั่นแหละถึงเป็นคำพูดปลอบประโลมที่แท้จริง
สุดท้ายแล้วต่อให้ใกล้ชิดกันแค่ไหน ก็ไม่มีทางรู้ใจจริงอีกฝ่ายจนชั่วชีวิต มองไม่เห็นความคิดในหัวด้วย เพราะแบบนี้เลยเกิดความไม่เข้าใจ และบางครั้งต้องเจอบทสรุปน่าเศร้าใจ พวกเราอาจมองไม่เห็นใจจริงของคนอื่นเลยไม่เข้าใจกัน แต่พวกเราเข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพึ่งคำพูดหรืออากัปกริยา แต่เป็นความรักความอบอุ่นไง
ตราบใดที่มีชีวิต แมงกะพรุนก็มีกระดูกได้ ถ้ามีชีวิตอยู่ได้นานอาจจะเจอโชคดีแบบหายากได้ สิ่งสำคัญคือต้องมีชีวิต ถ้ามีชีวิต วันหนึ่งก็อาจเจอสิ่งสำคัญบางอย่าง
ไม่มีความตายไหนเหมือนกันเลย ความตายมาเยือนต่างรูปแบบกัน ปฏิกิริยาของญาติพี่น้องก็แตกต่าง บางคนร้องไห้อย่างโศกเศร้า บางคนดีใจออกนอกหน้า หรือญาติพี่น้องที่สนใจแค่ข้าวของผู้ตาย
ไม่มีวิถีชีวิตของใครเหมือนกัน ไม่ว่าชีวิตแบบไหนก็ล้วนมีความทุกข์ของใครของมัน มีความโดดเดี่ยว มีความเศร้า แล้วก็มีความสุข
สุดท้ายแล้วความตายเป็นเพียงจุดในทางตรงข้าม
วินาทีที่ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้ก็เป็นเพียงจุด
สิ่งสำคัญคือ เส้นเชื่อมระหว่างจุดและจุดนั้น
เราสะสมเสี้ยวเวลาของการใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ
และความเป็นจริงนี้แหละที่สำคัญ
ขอบคุณหงส์ที่ให้ยืมมาอ่านจ้า